ท่องเที่ยวนั่งเรือชมวัดทั้ง 5

ท่องเที่ยวนั่งเรือชมวัดทั้ง 5

ท่องเที่ยวนั่งเรือชมวัดทั้ง 5 ณ จังหวัดสมุทรสงคราม

ในวันที่เช้ามืดของในวันรุ่งขึ้นผมก็ได้มารอคอยพระอยู่ที่ท่าน้ำในขณะที่ป้าเจ้าของบ้านกำลังต้มข้าวต้มในยามเช้าจากนั้นผมก็ได้ร่วมทำบุญกับคุณป้าคนที่ผมเพียงได้พบหน้าเมื่อวานและในช่วงเวลลาสั้นๆนี้มันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่มีค่าที่ตัวผมเองจะต้องเก็บเกี่ยวเอาไว้เพราะมันคงจะมีน้อยครั้งในชีวิตที่คนเราจะได้ทำบุญร่วมกับคนที่เพิ่งได้รู้จักกันเหมือนอย่างวันนี้ในมากมายหลายล้านของความรู้สึกที่คนเราจะแบ่งปันให้กันได้และแค่เพียงไม่กี่โอกาสของคนเราที่ได้โคจรมาแลกเปลี่ยนความทรงจำกัน

ซักช่วงนึงของชีวิต ผมลากับป้า ณ บ้านพักคุณยายเชื้อและเข้าสู่ยามเช้าของอัมพวาที่ตื่นเต้นขึ้นอีกครั้งและพร้อมกับแสงแดดที่กำลังจะผ่านม่านหมอกลงมา ณ กิจกรรมในยามเช้าของที่นี้ที่ตัวของผมเองนั้นจะพลาดไม่ได้ก็คงจะเป็นการนั่งเรือชม ห้าวัด เมื่อคนได้เข้ามานั่งเต็มเรือการเดินทางนั้นมันก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในการล่องเรือชมวัดทั้งห้าวัดนี้ผมขอสารภาพเลยว่า วัดทที่ผมจะต้องการเดินทางไปจริงๆนั้น คือ วัดบางกุ้ง วัด ที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุทยาเป็นราชธานีได้ถูกปกคลุมด้วยลากไม้ใหญ่จาก ต้นโพธิ์ ต้นไทร และ ต้นไกร

มันจึงเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวใครหลายคน และ รวมทั้งตัวผมต้องการที่จะต้องพบเห็นให้ได้ซักครั้งในชีวิตหลังจากที่ผมได้ออกเดินทางมาได้ซักระยะแล้วมันก็ทำให้ผมได้ค้นพบได้อย่างหนึ่งว่าการเดินทาคนเดียวจะมอบเพื่อนแท้ให้คุณอย่างน้อยหนึ่งคนในชีวิตและเพื่อนแท้คนนั้นก็คือตัวของคุณเองเพื่อคนสำคัญที่มีบทบาทมากที่สุดในชีวิตของคุณและถ้ารู้จักเพื่อนคนนี้อย่างถ่องแท้แล้ว คำว่าเหงามันจะไม่มีตัวตนกับคุณอีกเมื่อได้เดินมาทั้งสี่วัดแล้วสถานีสุดท้ายของการล่องเรือชม วัดทั้งห้า  ก็คือวัดบางกุ้ง

คนที่ไม่ได้เข้าวัดเข้าวาอย่างผมตั้งแต่ออกท่องเที่ยวได้กลับกลายเป็นว่าเข้าออกวัดเป็นว่าเล่นคงเป็นเรื่องจากที่ตัวผมในอดีตกำลังขำอยู่มีอยู่วันหนึ่งก่องที่ผมจะเริ่มเดินทางท่องเที่ยวผมนั่งคุยกับเพื่อนถึงวีรกรรมเรื่องราวในอดีตของเราที่เคยผ่านอะไรมาต่างๆนาๆในบทสนทนานั้นเรามีความสุขและขำขันกันไปแต่เมื่อบทสนทนาสิ้นสุดลงผมกลับรู้สึกใจหายและพบว่าตนเองเหลือเพียงเรื่องราวในอดีตที่สามารถสร้างความสุขให้กับชีวิตของตัวเอง

ได้มันช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าหดหู่ใจสำหรับผมมากในช่วงแรกผมรู้สึกโทษสิ่งรอบข้างที่น่าตื่นเต้นน้อยลงทุกทีทำให้ชีวิตไร้ปลายทางยึดติดแต่เมื่อเวลาผ่านไปผมจึงได้เข้าใจตนเองว่าสิ่งที่ได้พรากตัวตนและแนวคิดอันหลากหลายของตัวผมออกไป คือ การเป็นผู้ใหญ่

 

สนับสนุนโดย  dewabet

ไหว้พระฮ่องกง เพื่อขอพรต่อเทพแชกง

วัดที่ฮ่องกงนั้น มีหลายวัดที่ศักดิ์สิทธิ์

ซึ่งเราที่เป็นคนต่างชาตินั้นได้มีจิตศรัทธาที่ตั้งใจจะไปไหว้แล้วนั้น คิดว่าคงไหว้กันได้ไม่หมดแน่ๆ เพราะวัดศักดิ์สิทธิ์มากเหลือเกิน แต่หากคุณมีเวลาจำกัดในการเดินทางครั้งนี้ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไปฮ่องกงก็ประมาณ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืน เท่านั้น คุณอาจจะต้องเลือกวัดที่ไปไหว้แล้วครอบคลุมในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการนั่นก็คือ เงิน สุขภาพ การเดินทาง และความเป็นอยู่ ซึ่งทั้งหมดสี่อย่างที่กล่าวมานี้ จะมีอยู่หนึ่งวัด ที่คนส่วนใหญ่จะขอเรื่องเหล่านี้

นั้นคือวัดแชกง วัดดังและศักดิ์สิทธืของคนฮ่องกง  เพราะวัดนี้เวลามาคุณก็จะขอทั้งสี่อย่างนี้ได้เลยที่เดียว และการเดินทางค่อนข้างง่ายและสะดวกแค่คุณลงสถานีรถไฟวัดแชกง คุณเดินออกมาจากสถานี และข้ามถนนมานั้น คุณก็จะเจอวัดแห่งนี้

และเมื่อพอคุณเข้าไปนั้น วิธีการไหว้นั้นไม่ต้องเป็นกังวลอะไรเลย เพราะที่วัดนี้ พนักงานฮ่องกง ส่วนใหญ่พูดหรือให้คำแนะนำเป็นภาษาไทยได้หมด รวมถึงป้ายภาษาไทยที่เขียนไว้เพื่ออธิบายกับคนไทย และนักท่องเที่ยวทั่วไป จากนั้นคุณซื้อชุดไหว้ ซึ่งก็จะมีหลายราคาตามกำลังและความศรัทธา จากนั้นคุณจุดธูปและอธิษฐานอยู่ตรงลานเบื้องหน้าที่ทางสถานที่ของวัดจัดเตรียมไว้ให้ เมื่อจุดธูปขอพรเสร็จแล้วนั้น ให้คุณปักธูปลงตามจุดกระถางต่างๆ แล้วเดินเข้าไปว่าองค์เทพเจ้าแชกง ที่สูงสวยงามน่าเกรงขามอยู่ภายในวัด โดยให้คุณเหลือธูปสามดอกเข้าไปปักกระถางที่วางอยู่ข้างหน้าท่านและกราบไหว้ขอพรกันอีกที

ซึ่งเมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ตรงจุดทางออกนั้นจะมีกังหันจำลองขนาดใหญ่ให้คุณได้ออกมาหมุนตามเข็มนาฬิกาสามครั้ง เพื่อกราบขอพร จากนั้นถือเป็นอันเสร็จพิธี ซึ่งพรทั้งสี่ข้อที่จะขอตามใบพัดกังหันที่มีสี่อันนั้น ก็จะมีเรื่องของสุขภาพ เงินทอง ธุรกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งภายในบริเวณวัดนั้นก็จะมีกังหันจำลองหรือจี้และกำไรข้อมูลให้ผุ้มีความศรัทธาซื้อและนำกลับไปบูชาเองที่ประเทศไทย โดยทางวัดก็จะอำนวยความสะดวกบรรจุให้อย่างเรียบร้อย ซึ่งเมื่อซื้อแล้วนั้น

ทางวัดจะมีการแนะนำเพื่อเอากังหันหรือเครื่องประดับที่เราตั้งใจซื้อบูชานั้นพาไปทำพิธีให้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นความเชื่อบุคคลแต่ส่วนใหญ่แล้วเท่าที่รู้มาทั้งคนฮ่องกงเองหรือคนประเทศไทย ในทุกๆ ปีก็จะกลับไปกราบไหว้ที่วัดแห่งนี้อีกครั้งในทุกๆปี เลยทีเดียว นั่นจึงบอกเป็นนัยๆว่าหากเราศรัทธาจริง ทุกอย่างก็จะเป็นจริง

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  entaplay

อุทยานแห่งชาติเขาสก

ท่องเที่ยว ชมถ้ำปะการัง อุทยานแห่งชาติเขาสก

สถานที่แห่งนี้ยังคงอนุรักษ์การใช้เรือในแบบชาวบ้านที่ยังคงใช้กันแบบดั่งเดิมเพื่อให้ชาวบ้านที่นี่ได้มีอาชีพและอยู่รวมกับนักท่องเที่ยวโดยที่ไม่เสียสมดุลของวิถีชีวิตดั่งเดิม เมื่อเข้าสู่ยามค่ำคืนสถานที่แห่งนี้ไม่มีกองไฟและไม่มีเสียงเพลงมีเพียงแค่เสียงธรรมชาติที่ถูกเลือกเอาไว้ให้ทุกคนที่นี่ยามเช้าก่อนที่แสงอาทิตย์จะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันใหม่เป็นเวลาที่ตรงกับการออกหากินของสัตว์ในหุบเขาและเป็นเวลาที่สายลมและกลุ่มหมอกยามเช้าจะเผยตัวตนนั้น

ให้เราได้เห็นกลุ่มหมอกที่เกิดขึ้นหนาแน่นบนหุบเขากับการร่องเรือชมพระอาทิตย์ขึ้นมายามเช้าอากาศที่เย็นบริสุทธิ์สัมผัสเข้าที่หน้าของผมเสียงของกลุ่มชะนีที่หากินอยู่ในป่าและนกเงือกที่บินผ่านไปมาทำให้หุบเขาที่เงียบสงบนี้สมบูรณ์แบบตามธรรมชาติเป็นรางวัลในการตื่นเช้าของทุกคนบนเรือและเมื่อได้เข้าสู่ช่วงบ่ายของ

วันนี้ผมมีนัดเดินป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก

ที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้แต่ก่อนชาวบ้านเรียกกันว่าบ้านสก ซึ่งมันมาจากคำว่าบ้านศพ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เรียกว่าบ้านศพนั้นมีคำเล่าจากคนเฒ่าคนแก่ว่าในสมัยก่อนสถานที่แห่งนี้มีหมู่บ้านอาศัยอยู่กลาป่าเป็นหมู๋บ้านที่ไม่สามารถที่จะติดต่อกับภายนอกได้แต่ต่อมานั้นได้เกิดโรคระบาดชาวบ้านเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจึงทำให้บ้านสกกลายเป็นบ้านร้างและต่อมาถึงได้มีการสร้างถนนจากอำเภอพุนพินจังหวัดสุราษฏร์ธานีไปยังอำเภอตะกั่วป่าจังหวัดพังงา

จึงมีถนนตัดผ่านบ้านสกและเขาสกแห่งนี้เมื่อเข้าสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาสกผมได้พูดคุยกับพี่โทนี่มาตลอดทางพี่โทนี่เป็นไกด์ซึ่งคอยนำพาผมและทุกคนบนเรือเดินทางผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาสกเพื่อไปยังถ้ำประการังพี่โทนี่เป็นคนท้องถิ่น ซึ่งเกิดและอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสกมาแต่เล็กข้อมูลที่ได้ออกมาจากพี่โทนี่จึงเป็นข้อมูล

โดยตรงจากประสบการณ์ชีวิตในสถานที่แห่งนี้ของเขาอุทยานแห่งชาติเขาสกมีความสมบูรณ์ตามธรรมชาติอยู่มากในเส้นทางนี้ในบางครั้งอาจมีช้างป่าเดินตัดผ่านเส้นทาง ซึ่งถ้าโชคดีผมอาจเจอช้างป่าสักครั้งในชีวิตเมื่อผมมาถึงยังจุดต่อแพพี่โทนี่พาทุกคนขึ้นแพจากคำบอกเล่าของพี่โทนี่แพจะมีการสร้างใหม่ทุกครั้งใน1ปีเพื่อความสดใหม่ของไม้ไผ่และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกคนปลายทางของแพไม้ไผ่นี้คือถ้ำปาการังจากคำบอกเล่าของชาวบ้านท้องถิ่นถ้ำปาการังแห่งนี้เคยอยู่ใต้ท้องทะเลมาก่อน

 

สนับสนุนจาก  แทงบอลออนไลน์2020

ร้านกาแฟบ้านโคบาล

แต่งตัวเหมือนคาวบอยจิบกาแฟสบายๆที่ร้านกาแฟบ้านโคบาล

              ถ้าใครที่ไปเที่ยวที่จังหวัดสระบุรีถ้าใครไปเที่ยวที่น้ำตกเจ็ดสาวน้อยแถวแถวนั้นมีร้านกาแฟร้านหนึ่ง ซึ้งร้านากาแฟร้านนี้ไม่เหมือนใครเพราะที่นี้คุณจะได้แต่งตัวเหมือนกับคาวบอยซึ้งไม่มีที่ไหนที่เคยทำเลยทำให้ที่นี้มีความโดดเด่นและเพราะการให้ลูกค้าแต่งตัวเหมือนคาวบอยนั้นคือเหติที่ทำให้ร้านนี้ดังและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว 

ซึ้งคุณสามารถใส่ชุดคาวบอยได้ฟรีไม่ต้องเสียเงินสักบาท มีชุดคาวบอยให้คุณใส่ฟรีฟรีครบเซ็ต ซึ้งที่นี้ตั้งอยู่ก่อนที่จะถึงน้ำตกเจ็ดสาวน้อย 6 กิโลเมตร ซึ้งเมื่อคุณมาที่นี้คุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศของคาวบอยไม่เหมือนใคร ซึ้งที่นี้นอกจากจะมีชุดให้ใส่แล้วยังมีม้าให้คุณขี่อีกด้วยนะคะ ซึ้งร้านี้ขนาดของร้านก็เรียกได้ว่าใหญ่มากๆ ที่นี้มีน้ำให้คุณดื่มหลายอย่างมาก เช่น ชาหรือไม่ก็จะเป็นพวกกาแฟค่ะ มีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลยค่ะ   ซึ้งตรงด้านหลังของร้านจะมีชุดคาวบอยหลายชุดให้คุณได้เลือกที่จะใส่

ซึ้งที่นี้มีทั้งรองเท้าหนัง ชุด เข็มขัด ร้านนี้เกิดจากความชื่นชอบความเป็นคาวบอย ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัวของเจ้าของร้านแล้วนำมาจัดแต่งร้านตามสไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบ ดังนั้นที่นี่นักท่องเที่ยวจะเห็นของสะสมที่เกี่ยวกับการเป็นคาวบอยแทบทั้งสิ้น สำหรับร้านกาแฟบ้านคาวบอยแห่งนี้นักท่องเที่ยวส่วนมากนอกจากจะมานั่งจิบกาแฟ สบายสบายแล้ว ยังได้ถ่ายรูปสไตล์คาวบอย โดยสามารถยืมชุดของทางร้านที่มีการนำมาจัดประดับตกแต่งร้านแล้วนำใส่ถ่ายรูปก่อนเสร็จแล้วค่อยคืนเจ้าของร้านที่นี่เจ้าของร้านเขาใจดีมาก ให้ยืมฟรีไม่ต้องจ่ายเงินเพียงแค่มากินกาแฟที่ร้านก็พอแล้ว 

และหากใครที่มาเที่ยวที่อำเภอหมวกเหล็กแห่งนี่ก็อย่าลืมแวะมาทานกาแฟที่ร้านแห่งนี้กันนะคะ บรรยากาศโดยรอบของที่นี่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเยอะมากทำให้อากาศบริเวณรอบร้านไม่ร้อนเลย ทางด้านหลังร้านเป็นเนินเขาเตี้ย และที่หน้าร้านมีคอกม้า ซึ่งทำให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแนวไร่คาวบอยจริงจริง เจ้าของร้านที่นี่เป็นสามีภรรยาที่น่ารักมากมาก นักท่องเที่ยวถามเรื่องอะไรก็ตอบหมดและก็ไม่ถือตัวด้วย หากมาที่นี่ในเวลากลางคืนคาดว่าจะสวยงามและเย็นสบายกว่าเวลากลางวันมาก

เพราะเราจะได้สัมผัสกับไร่คาวบอยในแบบกลางคืนที่จะมีการจุดกองไฟ หากใครที่ชื่นชอบบรรยากาศแบบคาวบอยและชอบความร่มรื่นของต้นไม้และความเงียบสงบของป่าเขาลำเนาไพรแล้วละก็ อย่าลืมหาเวลาแวะมาที่ร้านกันดูนะคะ

เที่ยวย่านแฟชั่น สุดฮิพ ที่ HARAJUKU

HARAJUKU หรือ ฮาราจูกุ เป็นย่านแฟชั่นชั้นนำของญี่ปุ่นที่พูดชื่อแล้วทุกคนต้องร้องอ๋อกันอย่างแน่นอน แต่เดิมแล้วนั้นเป็นที่โด่งดังอย่างมากในเรื่องแฟชั่นคอสเพลย์ แต่งตัวเหมือนในการ์ตูนมังงะญี่ปุ่น หรือเหมือนในเกม ซึ่งดูแล้วเหมือนหลุดออกมาจากโลกในจินตนาการกันเลย แต่ปัจจุบันถึงแม้ว่าจะมีให้เห็นน้อยลง แต่ว่าก็ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายแฟชั่นสนุกๆมากมายที่ดูได้ที่ฮาราจูกุสไตล์อยู่

ที่นี่เป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นหญิงชายชาวญี่ปุ่น เพราะสามารถปลดปล่อยแฟชั่นการแต่งตัวได้อย่างเต็มที่ไม่มีเคอะเขิน อีกทั้งยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งชั้นดี ที่มีของให้เลือกมากมายอีกด้วย

ถนนสายแฟชั่น Takeshita Dori

ถนนทะเคชิตะ เป็นถนนเล็กๆมีความยาวเล็กน้อยเพียง 250 เมตรเท่านั้น แต่ว่าความไม่ธรรมดาคือสองข้างทางนั้นเต็มสูบไปด้วยร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย หลากหลายแบบหลายสไตล์ และยังมีร้านคาเฟ่เก๋ๆแซมอยู่เป็นระยะๆ อาหารอร่อย ตกแต่งร้านเก๋ไก๋ต้องไปชักภาพมาเก็บไว้ โดยเฉพาะถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยนั้น ถนนเส้นนี้จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คน เด็กวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการที่เป็นถนนสายแฟชั่นนี้เองทำให้ มีผู้คนแต่งตัวแสดงตัวตนแฟชั่นของตัวเองกันมาแบบจัดเต็มอยู่ตลอด

TABIO

ร้านถุงเท้าน่ารักๆใสๆ เหมาะกับสาวๆที่ชอบถุงเท้าแฟชั่น ลายน่ารัก มีลายดอต ลายทาง ลายการ์ตูน ใส่แล้วดูคิคุเหมือนเป็นคนญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

ร้าน OUT OF THE WORLD

เป็นร้านที่ขายรองเท้า เน้นรองเท้าทุกแบบ โดยเฉพาะบู๊ตเท่ห์ๆ มีทั้งสำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ทั้งทรงคลาสสิคเรียบ เท่ มีสไตล์ มีทั้งของผลิตทั้งในจีน ในญี่ปุ่น มีหลากหลายสไตล์ หลายแบบ นอกจากบู๊ต จะเป็น sneaker รองเท้าผ้าใบเท่ห์ๆก็มีเช่นกัน

KIDDY LAND

ร้านที่จะช่วยเติมเต็มความฝันให้แก่เด็ก หรือผู้ใหญ่ใจเด็กก็แล้วแต่ ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากการที่เปิดตัวร้านหนังสือ Hashidate Book และเริ่มนำของเล่นเล็กๆน้อยๆ มาวางขายด้วย จนเติบโตกลายมาเป็นร้านขายของเล่นเก่าแก่ที่อยู่มานานถึง 60 ปี มีสาขาทั่วประเทศ แต่ว่าที่ฮาราจูกุ เป็นสาขาที่ดังและใหญ่ที่สุด มีทุกอย่างที่เกี่ยวกับ Doraemon, Snoopy, Kitty,Rilakkuma รวมถึงตัวการ์ตูนญี่ปุ่นอื่นๆ อีกมากมาย

สะพานสวย

  สำหรับนักท่องเที่ยวสายเซลฟี้  เตรียมกล้องเตรียมเมมโมรี่ หาเสื้อผ้าสวยสวย ทรงผมเก๋เก๋ มารอกันเลยนะคะ เพราะกำลังพาคุณไปชมกับ

สุดยอดสะพานที่ทั้งสวยและมีความเก๋ เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างมาก มีที่ไหนบ้างมาดูกันค่ะ

  • เริ่มต้นด้วยเมืองสุดสโลว์ไลด์ นั่นก็คือ อำเภอปราย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่นี่มีสะพานไม้ที่ทอดตัวไปบนทุ่งนาสีเขียวขจี ซึ่งชาวบ้านเรียกสะพานแห่งนี้ว่าสะพานบุญโขกู้โส่ ซึ่งมีพื้นที่อยู่ในหมู่บ้านแพนโปะ อำเภอปราย จังหวัดแม่ฮ่องสอน  ความหมายของคำว่า โขกู้โส่ คือสะพานบุญ ซึ่งคำว่าโขกู้โส่ นั้นเป็นภาษามาจากไทยใหญ่ เพราะสะพานไม้แห่งนี้เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านในการสร้างสะพานไม้แห่งนี้ออกมา จุดประสงค์ก็เพื่อให้พระสงฆ์ได้ออกมาบิณฑบาตรและชาวบ้านยังสามารถใช้สะพานไม้แห่งนี้ไปทำบุญที่วัดได้ด้วยค่ะ
  • สถานที่ท่องเที่ยวที่สองเรายังคงอยู่กันที่อำเภอปายกันอยู่นะคะ เราจะไปเดินเล่นสวยสวยกันที่สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย สะพานที่หากใครได้มาที่ปายแล้วไม่ได้มาเดินที่สะพานแห่งนี้ จะถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองปายกันค่ะ ซึ่งสะพานแห่งนี้มีประวัติว่าแต่เดิมอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยตอนที่อยู่เชียงใหม่ใช้ชื่อ สะพานนวรัตน์ โดยตอนนั้นสะพานนวรัตน์ มีการถูกรื้อเก็บเอาไว้ไม่ได้ใช้งาน พอที่ปายมีเหตุการณ์น้ำท่วมและที่สะพานปายได้พังลงไป ก็เลยมีการทำเรื่องของสะพานนวรัตน์ให้มาอยู่ที่ปายค่ะ สะพานที่ทั้งสวย คลาสสิกและมีประวัติสองจังหวัดแบบนี้ห้ามพลาดที่เดียวค่ะ
  • ออกจากปายเราจะไปเที่ยวกันต่อที่เชียงใหม่ เพื่อไปเดินเล่นที่ Canopy Walk ทางเดินเหนือเรือนยอดไม้พฤกษาศาสตร์ของสมเด็จพระนางเจ้าศิริกิจ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จากบนสะพานเราจะสามารถมองเห็นวิวที่สวยงามได้แบบ 360 องศา สะพานแห่งนี้มีความสูงอยู่เหนือพื้นดิน 20 เมตรและมีความยาวถึง 400 เมตรการออกแบบสะพานนั้นคำนึงถึงสภาพมากที่สุด โดยโครงสร้างทำมาจากเหล็กกล้า แข็งแรง บางช่วงของสะพานเป็นพื้นที่ทำมาจากกระจกใส เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มองเห็นธรรมชาติด้านล่าง  สร้างความตื่นเต้นแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ

       และนี่ก็คือ สุดยอดของสะพานที่สวยที่สุด ของจังหวัดในเขตภาคเหนือ ที่หากใครที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่ภาคเหนือแล้วไม่ควรพลาด เป็นสถานที่ถ่ายรูปและเช็คอิน ที่สวยงามมากมาก  เหมาะกับมาพักผ่อนแบบสบายสบาย เพราะจังหวัดของภาคเหนือ ที่นี่อากาศจะเย็นและสดชื่น การได้มาเดินชิลชิล เล่นบนสะพานเหล่านี้ จะทำให้เรารู้สึกสบายใจหายเครียดได้ค่ะ

พาไปเช็คอินกับสะพานสวยๆของภาคกลาง

    รอบนี้เราจะพามาเที่ยวสะพานของภาคกลางที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพจังหวัดแรกที่เราจะพาไปเป็นจังหวัดนครนายกซึ่งสะพานได้ที่เราจะแนะนำก็คือสะพานทุ่งนามุ้ยสะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่สร้างเข้าไปในทุ่งนามีความยาวมากกว่า 150 เมตรซึ่งสะพานจะทำมาจากไม้สำหรับที่นี่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาถ่ายรูปโดยนั่งอยู่ริมสะพานไม่ขายอยู่กลางทุ่งนาบอกได้เลยว่ารูปออกมาสวยงามมากเพราะคุณจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติความเป็นสีเขียวของไร่นาซึ่งหาดูได้ยากยิ่งและหากใครสนใจจะมาถ่ายรูปวันหยุดก็ยืมขับรถมาถ่ายรูปกันที่นครนายกกันได้เลย

    ที่ต่อไปเราจะย้ายจุด ไปที่จังหวัดกาญจนบุรีกันแทนถ้าพูดถึงสะพานที่มีความสวยงามของจังหวัดกาญจนบุรีคงหนีไม่พ้นสะพานข้าแม่น้ำแควเพราะนอกจากคุณจะได้ยินชมวิวสะพานสวยสวยแล้วคุณจะได้ชมวิวของแม่น้ำแควที่มีสะพานภาพผ่านและหากมีวิวรถไฟวิ่งผ่านแม่น้ำแควด้วยจะยิ่งสวยงามมากเค้าบอกกันว่าหากมาถึงกาญจนบุรีแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปที่สะพานข้ามแม่น้ำแควถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดกาญจนบุรีเลยนะคะและที่สำคัญสะพานข้าแม่น้ำแควแห่งนี้ไม่ใช่แค่เพียง. แบรนด์มาร์คที่เราจะเอาไปโชว์ใน Facebook เท่านั้นค่ะแต่ที่นี่ยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลกอีกด้วยนะคะ

      จะเอาตัวเมืองกาญจน์เรามาขับรถไปเที่ยวกันต่อที่สังขะบุรีที่นี่มีสะพานมอนซึ่งเปรียบเสมือนสะพานแห่งวัฒนธรรมที่เชื่อมสองเชื้อชาติระหว่างไทยกับมอนเข้าด้วยกันสะพานมอญมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสะพานอุตตมะนุสรณ์ถ้าตัวยาวอยู่บนแม่น้ำสงกาเรียไปถึงหมู่บ้ามอนซึ่งจะหาใครได้มีโอกาสมาเที่ยวกาญจนบุรีแล้วก็อย่าลืมแวะถ้ามาเที่ยวสะพานมอญแห่งนี้ด้วยนะคะ

     เรียกได้ว่าเป็นสะพานที่กำลังมาแรงแซงโค้งสะพานอื่นๆเลยค่ะสำหรับสะพาน. ชุมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลมสะพานแห่งนี้อยู่ที่จังหวัดจันทบุรีเป็นสะพานไม้ที่มีการสร้างทอดยาวออกไปในกลางทะเลสวยงามมากๆเลยค่ะบรรยากาศยืนกรานสะพานมีวิวทะเลล้อมรอบเป็นอะไรที่โรแมนติกสุดสุดที่นี่นักท่องเที่ยวชอบมายืนชมวิวทะเลและชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าและพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้อีกด้วยนะคะซึ่งสะพานแห่งนี้ที่จริงแล้ว

ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้สามารถเดินข้ามแม่น้ำไปสักการะพระพุทธรูปที่อยู่บนเนินหินกรางน้ำแต่ตัสะพานไม้ยังสร้างไปไม่ถึงตัวเจดีย์นะคะถ้าเราต้องการไปถึงที่เจดีย์เราจะต้องรอให้น้ำรถแล้วเท่านั้นใครอยากมาเดินชิลล์ชิลล์แบบนี้เก้าปัดหมุดแม่จันทบุรีได้เลยค่ะ

วันหยุดนี้ไปเที่ยวฟาร์มจระเข้กันเถอะ

  เคยได้ยินแต่ว่าที่จังหวัดสมุทรปราการมีฟาร์มจระเข้ขนาดใหญ่ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมการแสดงของจระเข้และคนเลี้ยงจระเข้ตั้งใจไว้หลายปีแล้วว่าจะไปแต่ก็ไม่เคยได้ไปสักทีวันนี้เลยถือโอกาสชักชวนลูกสาวทั้งสองคนอยากพาลูกสาวไปเห็นจระเข้ตัวเป็นเป็นของแท้ไม่ใช่ดูแค่จากในจอทีวีตกลงลูกสาวก็อยากดูจริงนัดกันว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เราจะไปฟาร์มจระเข้ที่จังหวัดสมุทรปราการกันซึ่งการเดินทางเราจะใช้การเดินทางด้วยรถยนต์เพราะไปกันสามคนแม่ลูกคงไม่เหมาะกับการขึ้นรถเมล์แน่นอน

     วันนี้ถึงวันที่เรานัดกันแล้วว่าเราจะไปเที่ยวฟาร์มจระเคลูกสาวสองคนตื่นกันแต่เช้าโดยที่แม่ไม่ต้องปลุกเลยอาบน้ำแต่งตัวเสร็จลงมากินข้าวเราก็เตรียมพร้อมกันที่จะไปฟาร์มจระเคกันเลยเมื่อขับรถไปถึงที่สามจระเข้เราก็มีที่จอดรถเป็นร้านกว้างอยู่บริเวณหน้าฟาร์มซึ่งวันนี้คนค่อนข้างน้อยเราจึงไม่ต้องวนหาที่จอดรถนานและเมื่อลงจากรถแล้วก็เจอประตูทางเข้าฟาร์มจระเข้ที่มีป้ายบอกชื่อฟาร์มเสร็จแล้วตรงจุดทางเข้าจะมีจุดจำหน่ายตั๋วเราจึงต้องผัดกันไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปดูการแสดงของจระเข้

และเมื่อซื้อตั๋วเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อเราเดินเข้าไปข้างในยังไม่เห็นจระเข้เลยแต่เราก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับสัตว์นานาชนิดมากมายที่มีอยู่ในฟาร์มจระเข้แห่งนี้ด้วยซึ่งการมาครั้งนี้เราไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าเราจะมาเห็นสัตว์ชนิดอื่นๆด้วยเพราะว่าคิดว่าฟาร์มจระเข้ก็น่าจะมีแต่จระเข้เท่านั้นเราสามคนแม่ลูกจึงแวะชมสัตว์อื่นๆที่ฟาร์มจระเข้กันก่อนไม่ว่าจะเป็นการแวะให้อาหารนกแวะเลี้ยงนมแกะป้อนอาหารกระต่ายหรือแม้แต่การดูเสือซึ่งสัตว์เหล่านี้ทางฟาร์มจระเข้มีการทำที่อยู่ให้กับสัตว์เหล่านี้ซึ่งมั่นใจได้ว่าปลอดภัยแน่นอน

และเมื่อเราเดินลึกเข้าไปอีกหน่อยใกล้จะถึงฟันที่เลี้ยงจระเข้แล้วเราก็พบสัตว์อื่นๆอีกมากมายตลอดสองข้างทางที่เราเดินไปซึ่งเพิ่งรู้ว่าที่นี่มีพื้นที่ที่กว้างใหญ่มากเหมือนกันเดินกันจนเหนื่อยเราก็เลยไปหาจุดที่จะมีการแสดงของจระเข้ซึ่งรอเพียงไม่นานก็มีผู้ชายใส่ชุดคล้ายกับคนโบราณออกมาแล้วเขาก็เริ่มการแสดงเล่นกับจระเข้ให้เราดูเด็กเด็กถูกใจกันมากแม้จะหวาดเสียวบ้างในบางครั้งแต่ก็ชอบเมื่อการแสดงจบพวกเราทั้งสามคนก็พากันกลับบ้าน          

เทศกาลน่าไปจากทั่วโลก

ทุกๆเทศกาลที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศนั้นมักจะนำความมีชีวิตชีวาและความเบิกบานใจมาให้กับผู้คนที่เฉลิมฉลอง บางเทศกาลก็มีความเฉพาะเจาะจงร่วมด้วยไปกับประเพณีและมีแตกต่างกันไปตามเฉพาะกลุ่ม ชุมชน และเชื้อชาติ การเฉลิมฉลองเทศกาลนั้นยังให้ความหมายสำคัญกับชีวิตของเหล่าผู้คนที่มาเฉลิมฉลองอีกด้วย 

มีเทศกาลไหนบ้างล่ะที่น่าไปและไม่ควรพลาด เอาล่ะมาดูกันว่ามีเทศกาลอะไรจากทั่วโลกกันบ้าง 

  1. เทศกาลปามะเขือเทศ จัดขึ้นที่เมืองบูญอลในประเทศสเปน โดยเทศกาลจะจัดทุกวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคมของทุกๆปี ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมเทศกาลนี้จะทำการปามะเขือเทศใส่กัน ในแต่ละปีจะมีมะเขือเทศราวๆกว่า 100 ตัน ถูกปากันอย่างสนุกสนานในเทศกาลนี้ มะเขือเทศที่ใช้คือ Extremadura ซึ่งเป็นมะเขือเทศราคาถูก รสชาติไม่อร่อยค่ะ
  2. เทศกาลสาดสี จัดขึ้นทั่วประเทศอินเดียช่วงเดือนมีนาคม เป็นการเฉลิมฉลองของชาวฮินดูเพื่อระลึกถึงชัยชนะของความดีที่อยู่เหนือความชั่ว เทศกาลนี้ยังเป็นเครื่องหมายของการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ ที่เป็นฤดูของความหวังและความสุขสันต์ โดยผู้ที่เข้าร่วมเทศกาลจะทำการสาดผงสีใส่กันอย่างสนุกสนาน สีที่สาดกันจะมีความหลากหลายสวยงาม โดยตัวผงสีจะทำมาจากพืชและสมุนไพรธรรมชาติค่ะ 
  3. เทศกาลคาร์นิวัล จัดขึ้นที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี ผู้คนที่เข้าร่วมเทศกาลจะทำการสวมหน้ากากที่ถูกทำขึ้นมาอย่างประณีตละเอียดงดงามและมีความแตกต่างกันไปตามความชอบของผู้ใส่ พร้อมกับแต่งตัวกันอย่างจัดเต็มอลังการ โดยในเทศกาลผู้คนจะออกมาเดินขบวนพาเหรดและเต้นรำกันอย่างสนุกสนานไม่อายใคร
  4. เทศกาล Burning Man ของสหรัฐอเมริกา เทศกาลนี้ใช้เวลาจัดกันยาวนานเป็นสัปดาห์เลยล่ะค่ะ  โดยจัดที่ทะเลทราย Black Rock รัฐเนวาด้า เริ่มตั้งแต่วันจันทร์สุดท้ายของเดือนสิงหาคมไปจนถึงวันจันทร์แรกของเดือนกันยายน เป็นเทศกาลที่ผู้เข้าร่วมจะนำผลงานศิลปะที่หลากหลายมาจัดแสดงโชว์ และผูกมิตรกับผู้ที่เข้ามาร่วมงานอย่างสนุกสนาน และคืนวันก่อนจบเทศกาลจะมีการเผาหุ่นไม้ขนาดยักษ์อีกด้วย
  5. เทศกาลโคมไฟ จัดขึ้นที่ประเทศไต้หวัน ในเทศกาลนี้คุณจะได้พบเจอกับโคมไฟนับพันๆดวงที่จะส่องสว่างสดสวยในท้องฟ้ายามราตรี เทศกาลนี้เป็นพิธีการโบราณที่มีความหมายเพื่อแสดงว่าเมืองเป็นไปด้วยความโชคดีและไม่มีโรคภัย ภายในเทศกาลจะมีการจัดแสดงโคมไฟเป็นรูปร่างต่างๆเยอะแยะสวยงามเต็มไปหมดอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น รูปทรงสัตว์นานาชนิด สถานที่สำคัญๆต่างๆ และฯลฯ  
  6. เทศกาลสงกรานต์ ของประเทศไทย จัดขึ้นทุกวันที่ 13 – 15 เมษายนของทุกปี เทศกาลสงกรานต์นั้นถูกจัดเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงในระดับโลกเลยอีกด้วย เป็นเทศกาลที่มีอยู่มาอย่างช้านาน ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ของไทย โดยเหล่าชาวไทยและนักท่องเที่ยวจะร่วมออกมาเฉลิมฉลองเทศกาลโดยการออกมาสาดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน และยังช่วยคลายร้อนจากอากาศอันอบอ้าวของเดือนเมษายนอีกด้วย

พาไปเที่ยวน้ำตกสามหลั่นที่จังหวัดสระบุรี 

หากใครที่ชื่นชอบการเล่นน้ำอยากจะไปสัมผัสกับน้ำใส่สายและบรรยากาศโดยรอบที่มีต้นไม้ หลากหลายสายพันธุ์ที่เราได้สัมผัสกับความงามตามธรรมชาติขอแนะนำอุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่นที่นี่คุณจะได้สัมผัสความสวยงามของน้ำตก

ซึ่งหากใครต้องการที่จะนอนพักค้างคืนเพื่อฟังเสียงนกร้องในยามค่ำคืนสำหรับที่อุทยานน้ำตกสามหลั่นนี้จะมีที่พักขอให้บริการนักท่องเที่ยวหรือหาใครไม่อยากจะนอนพักก็สามารถมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้โดยที่นี่จะอยู่ห่างจากกรุงเทพแค่เพียง 100 กิโลเมตรเท่านั้นเองการเดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติ สามหลั่น นั้นคุณสามารถขับรถตรงจากกรุงเทพแล้วขับรถตรงมาผ่านมาทางบริเวณอำเภอหนองแคได้เลยซึ่งที่นี่จะมีสวิวทิวทัศน์ที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปลักษณะของน้ำตกสามหลั่นนั้น

จะมีลักษณะของน้ำที่ไหลลงมากระทบหินเป็นในลักษณะของขั้นบันไดซึ่งโขดหินของที่นี่จะเป็นหินกว้างที่ลดหลั่นกันลงมาโดยน้ำตกที่นี่จะอยู่ห่างจากอุทยานประมาณ 400 เมตรจะเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมความงามของน้ำตกสามหลั่นเฉพาะในช่วงหน้าฝนเท่านั้น เนื่องจากที่นี่ในหน้าแล้งน้ำจะมีปริมาณน้อยมากซึ่งไม่เพียงพอต่อการเล่นน้ำของนักท่องเที่ยวและใกล้ใกล้กับน้ำตกสามหลั่นเดินไปเพียงแค่ 400 เมตรเท่านั้นคุณก็จะเจอกับน้ำตกภูหินดาดแต่น้ำตกที่นี่จะเป็นน้ำตกขนาดเล็กมีฉันน้ำตกแค่เพียงชั้นเดียว

เป็นลักษณะลานหินกว้างและจุดเด่นของที่น้ำตกแห่งนี้

ก็คือจะมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อยู่ด้านข้างน้ำตกคอยให้ความร่มรื่นแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการมานั่งพักผ่อนเพื่อชมความงามของธรรมชาติ และเดินมาอีกหน่อยแค่เพียง 400 เมตรเช่นกันคุณจะได้พบกับน้ำตกโตนรากไทรมีลักษณะคล้ายกับน้ำตกโพธิ์หินดาดนั่นก็คือเป็นน้ำตกหินชั้นเดียวที่จะมีน้ำไหลลงมาจากผาสูงลงมาสู่แอ่งน้ำข้างล่าง

ซึ่งที่นี่นักท่องเที่ยวต่างนิยมมาเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมากสำหรับน้ำตกถึงสามจุด นักท่องเที่ยวสามารถ เดินชมความงามของน้ำตกได้ตลอดเวลาเพราะน้ำตกทั้งสามที่นี้แต่ละที่จะห่างกันแค่เพียง 400 เมตรเท่านั้นและที่นี่ก็สามารถเดินกลับไปยังอุทยานที่พักที่นักท่องเที่ยวได้จองห้องพักเอาไว้ซึ่งห่างจากอุทยานที่พักแค่เพียง 400 เมตรเช่นเดียวกันทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวมากเพราะนอกจากจะได้เล่นน้ำแล้วยังได้เห็นธรรมชาติของสัตว์ป่าอีกด้วยและหากทั้งนักท่องเที่ยวคนไหนยังท่องเที่ยวกันไม่จุใจใกล้ใกล้กับอุทยานแห่งชาตินี้คุณสามารถแวะไปเที่ยววัดพระพุทธะฉายอุโมงค์รถไฟพระพุทธะฉายรวมถึงไปดูซากเจดีย์โบราณบนยอดเขาเรดาร์ได้อีกด้วย