เที่ยวไหนปลอดภัยที่สุดในปี 2566

ขึ้นอยู่กับว่าคุณนิยามคำว่าปลอดภัยอย่างไร จากการติดเชื้อโควิด-19 ไปจนถึงพายุหิมะ การเดินทางในทุกวันนี้อาจเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงมักจะขึ้นอยู่กับปลายทางและวิธีที่คุณกำหนดความเสี่ยง เมืองที่ปลอดภัยที่สุด การรับรู้ของผู้คน รายงานที่เผยแพร่โดยบริษัทประกันภัยในสหราชอาณาจักร William Russell ได้จัดอันดับ “เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก”

ตามการรับรู้ของผู้คน ในรายชื่อนี้ซึ่งอาศัยอัตราการเกิดอาชญากรรมที่รับรู้ได้จากฐานข้อมูลทั่วโลกที่รวบรวมฝูงชน Numbeo เอเชียและยุโรปครองอันดับเมืองที่ปลอดภัยที่สุด ไทเปของไต้หวันทำคะแนนได้สูงสุด ขณะที่บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินาทำคะแนนได้ต่ำสุด (คะแนน: 36.7) ตามรายงาน 

เมืองที่ปลอดภัยที่สุด สุขภาพและการเมือง แต่ห้าอันดับแรกสำหรับ “สุขภาพและความปลอดภัย” ใน “ดัชนีจุดหมายปลายทาง 100 เมืองยอดนิยมประจำปี 2022”

ของ Euromonitor International นั้นแตกต่างกัน การจัดอันดับดังกล่าวซึ่งเผยแพร่ในเดือนธันวาคม วิเคราะห์ถึง “เสถียรภาพทางการเมืองและความปลอดภัยทางสังคม” ซึ่งรวมถึงผลกระทบของโควิด-19 (เช่น จำนวนผู้ป่วยทั้งหมด การเสียชีวิต และอัตราการฉีดวัคซีน) รวมถึงอุบัติเหตุการบาดเจ็บบนท้องถนน สถิติการทุจริตของรัฐบาลและการก่อการร้าย

ที่นี่ เมืองต่างๆ ในตะวันออกกลางและเอเชียอยู่ในอันดับต้น ๆ ชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดฮา ประเทศกาตาร์ อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ “ตะวันออกกลาง ครองตำแหน่ง 4 อันดับแรก” Vitalij Vladykin ผู้จัดการฝ่ายวิจัยอาวุโสของ Euromonitor International

กล่าว ในขณะที่ “สิงคโปร์อยู่ในอันดับแรกในแง่ของหมวดเสถียรภาพทางการเมืองในปี 2562-2565” “สุขภาพและความปลอดภัย” เป็นหนึ่งในหกปัจจัยที่ Euromonitor International ใช้ในการรวบรวมดัชนีจุดหมายปลายทางของเมืองประจำปี

สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด ความเสี่ยงทางการแพทย์ รายงานของบริษัทรักษาความปลอดภัยการเดินทาง International SOS ไม่เพียง

แต่วิเคราะห์ความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการรักษาพยาบาล เช่น คุณภาพของผู้เชี่ยวชาญและบริการฉุกเฉิน ความพร้อมของยาและอุปสรรคด้านภาษา แผนที่ความเสี่ยงในการเดินทางปี 2023 แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ในอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก รวมถึงสถานที่ต่างๆ เช่น ตุรกี อิสราเอล ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

มีความเสี่ยงทางการแพทย์ “ต่ำ” แผนที่แสดงเยเมน ซีเรีย อิรัก อัฟกานิสถาน เกาหลีเหนือ และบางส่วนของแอฟริกามีความเสี่ยงทางการแพทย์ที่ “สูงมาก” ซึ่ง International SOS ให้คำจำกัดความว่ามีระบบการดูแลสุขภาพ “เกือบไม่มีอยู่จริงหรือเก็บภาษีมากเกินไป”

ประเทศที่มีสีม่วงมี “การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ” ในความเสี่ยงทางการแพทย์ ซึ่งอาจหมายถึง  huaydee     ความแตกต่างของระดับการดูแลระหว่างเมืองและพื้นที่ชนบท ตามรายงาน

แผนที่นี้ไม่ได้สะท้อนถึงการระบาดของโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศจีน ดร.ไอรีน ไล ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ International SOS กล่าว แทนที่จะแสดงการระบาดของโรคเฉพาะ แผนที่มุ่งเน้นไปที่สถานการณ์ทางการแพทย์ “เบื้องหลัง” ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

เธอกล่าว สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แผนที่ความเสี่ยงด้านการเดินทางของ International SOS ยังประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงอาชญากรรมและความรุนแรงทางการเมือง เช่น การก่อการร้ายและสงคราม ความไม่สงบทางสังคม และความอ่อนไหวต่อภัยธรรมชาติ บริษัทระบุ

Sally Llewellyn ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ International SOS กล่าวว่าจุดประมาณ 25 แห่งทั่วโลก

มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ “ไม่มีนัยสำคัญ”: อเมริกันซามัว อันดอร์รา แองกวิลลา หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน เคปเวิร์ด หมู่เกาะเคย์แมน หมู่เกาะคุก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ กรีนแลนด์ ไอซ์แลนด์ คิริบาส ลิกเตนสไตน์ ลักเซมเบิร์ก หมู่เกาะมาร์แชลล์ โมนาโก นาอูรู นอร์เวย์ ซานมารีโน เซเชลส์ สโลวีเนีย สวิตเซอร์แลนด์ เติกส์และเคคอส ตูวาลู วาลลิสและฟุตูนา

ท่องเที่ยวแบบใหม่ ไม่ต้องออกจากบ้านก็เที่ยวได้

ตัวไกลห่าง แม้กระนั้นเสมือนได้ไปถึงจริงธุรกิจแนวใหม่ที่ทำให้แค่อยู่บ้านก็รู้สึกได้ออกไปเที่ยวจริง ๆ

ด้วยเทรนด์การท่องเที่ยวแบบทิพย์ ๆ ที่กำลังมาแรงที่ผ่านมาอาจหนีไม่พ้น ท่องเที่ยวแบบไม่ได้ไปแต่เหมือนไป ที่เป็นการพาตนเองไปสัมผัสสถานที่ต่าง ๆ ทั่วทุกมุมโลกผ่านทางออนไลน์ในช่องทางของตนเองที่มีอยู่ โดยหนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมที่หลายท่านคงจะเคยชินกันมาตลอดคงหนีไม่พ้นเป็น Google Earth ที่เสมือนพาพวกเราไปเดินเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ได้แทบจะเสมอเหมือนไปด้วยตัวเองจริง ๆ

สำหรับคนไหนกันที่โคตรจะคลั่งรักงานศิลป์ Google ยังมีส่วนเสริมที่เรียกว่าฟังก์ชัน Arts & Culture ที่สะสมรูปถ่าย วิดีโอ ข้อมูลต่าง ๆ และก็เอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับศิลป์ วัฒนธรรม และก็ประวัติศาสตร์กว่าหกล้านชิ้น และก็นิทรรศการในแบบDigital กว่าเจ็ดพันงาน

จากพิพิธภัณฑสถานกว่าสองพันห้าร้อยที่ในแปดสิบประเทศทั้งโลก มาไว้บนโลกอินเตอร์เน็ต ที่เข้ามามองได้จากทุกหนทุกแห่ง

ท่องเที่ยวแบบใหม่ และก็มีนานาประการแบบอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การโชว์ผลงานผ่านทางออนไลน์ โดยใช้ Street View การเข้าชม ซึ่งมีความละเอียดสูงด้วยกล้องถ่ายภาพ Art Camera ที่มีความคมชันอย่างมากเลยทีเดียว

สำหรับในการท่องเที่ยวทิพย์ต้นแบบวิดีโอครบทุกองศานี้ ทางเมืองไทยเองก็มี อย่าง มิวเซียมไทย ที่ช่วยทำให้ผู้ชมสามารถเข้าดูนิทรรศการที่จัดขึ้นผลัดเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาด้านในมิวเซียมประเทศไทยในแบบครบทุกองศาได้เหมือนกัน ผ่าน www.museumsiam.org แล้วคลิกเลือก พิพิธภัณฑสถานเปรียบเสมือนจริง เลือกนิทรรศการที่ปรารถนาดูแล้วหลังจากนั้น คลิกที่ เข้าชมนิทรรศการเสมอเหมือนจริง ก็จะได้เข้าดูนิทรรศการนั้น ๆ เปรียบเสมือนอยู่ในสถานที่จริงทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ไปหรืออยู่แค่ที่บ้าน

นอกจากนั้น กระแสท่องเที่ยวแบบนี้ ยังมีได้รับความนิยมเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หลายที่หันมาจัด Virtual tour ของตน อาทิเช่น พิพิธภัณฑสถานลูฟร์ (Louvre) ที่มีอีกทั้ง Virtual tour ที่พาชมทัวร์ห้องต่าง ๆ เพื่อดูงานศิลปะมีชื่อเสียง รวมทั้งยังมี Louvre at home ซึ่งเป็นฟังก์ชันเสริมโดยเป็นกิจกรรมออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ประทับใจกับงานศิลปะขั้นสุดยอดได้จากที่บ้าน

เว้นแต่ไปดูสถานที่เที่ยวแล้วก็งานศิลปะมีชื่อเสียงสุดยอด สำหรับคนไหนกันจำต้องทำอยู่ที่บ้านแล้วก็ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ ก็มีเว็บเยอะมากที่ช่วยทำให้การทำงานที่บ้านไม่มีเบื่ออีกต่อไป ตั้งแต่การผลิตบรรยากาศด้วยเสียง อย่าง I Miss My Cafe ที่เลือกเปิดเสียงต่าง ๆ ข้างในร้านค้า พร้อมลิสต์เพลงชิล ๆ

ราวกับนำร้านขายกาแฟมาไว้ที่บ้าน หรือถ้าเกิดคนใดปรารถนาที่จะรู้สึกถึงสถานที่จริงมากยิ่งกว่าเพียงแค่เสียง ที่จะพาพวกเราไปพักตามสถานที่ต่าง ๆ แบบสุ่มเลือก

สนับสนุนเนื้อหาโดย    huaydee

คาเฟ่และร้านอาหารสไตล์อเมริกัน ที่ทำให้เหมือนย้อนไปในยุค50

ถ้าหากกล่าวถึงร้านกาแฟน่านั่งหรือคาเฟ่ อากาศดีๆ คาเฟ่และร้านอาหารสไตล์อเมริกัน ก็คงจะมีตัวเลือกให้ไปเช็กอินล้นหลามไม่รู้จักเบื่อแล้วในวันนี้ แถมยังมีทั่วๆไปไม่ว่าจะเป็นทั้งในกรุงเทพมหานคร และก็ต่างจังหวัด เลือกชิลใกล้ๆบ้านกันได้เลย แต่ว่าถ้าหากกำลังมองหาคาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ส่วนตัว วันนี้จะมานำเสนอคาเฟ่สไตล์อเมริกัน ที่เป็นแนวย้อนยุค ย้อนวัยแบบวัยรุ่นถูกใจ จะเท่ เก๋ ชิคแค่ไหน ตามไปดูได้เลย

1.Americano Café

คาเฟ่ดีไซน์อเมริกันที่มาแรงปัจจุบันนี้ ที่มีการดีไซน์การตกแต่งราวกับว่ายกร้านอาหารอเมริกาดินเนอร์จากอเมิรกามาอย่างยิ่งจริงๆ ภายนอกเรียบง่ายด้วยสีเงินเมทัลลิก ส่งให้ประตูสีแดง แล้วก็ลายตกแต่งตารางขาว-ดำสะดุดตา เมื่อเราได้เข้าไปในร้านแล้วเราจะเจอกับเคาน์เตอร์สีฟ้า รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์โทนแดง ตัดกับฝาผนังสีเหลืองมัสตาร์ด พร้อมทั้งของตกแต่งแบบคลาสสิก ผสมเป็นกลิ่นแบบสมัย 50s เมนูอาหารก็ไม่น้อยหน้า มีอีกทั้งเบอร์เกอร์อร่อยๆสปาเกตตีรสเข้มข้น รวมทั้งเครื่องดื่มสีสันหวานมุ้งมิ้ง อิ่มดี ที่ทำให้เรามีรูปกลับบ้านมากมายเลย

2.Big Burger

ร้านค้าเบอร์เกอร์สุดฮอตที่เขตปุณณวิถี เด่นมากๆในเรื่องของกินรวมทั้งเครื่องดื่มต่างๆแล้ว ยังมีการตกแต่งร้านค้าได้อย่างน่าดึงดูด ราวกับชูร้านค้าเบอร์เกอร์ในอเมริกามาไว้ตรงนี้อย่างยิ่งจริงๆ ข้างหน้าเป็นกระจก มีป้ายติด Big Burger สีแดงตัวใหญ่ชัดเจน ส่วนข้างในตกแต่งเน้นย้ำโทนขาว-แดง ทำเป็นลายหมากรุกสลับกับลายขวาง อากาศสบายๆกันเอง อิ่มคุ้มเรื่องเบอร์เกอร์ ไก่ทอด สปาเกตตี และก็ของกินสไตล์อเมริกันอีกหลายรายการอาหาร

3.MQQN Cafe BKK

คาเฟ่น่านั่ง อากาศดี ผ่องใส กันเอง มีการตกแต่งที่เหมือนกับเราอยู่ที่อเมริกันเลย  huaydee   ข้างหน้าร้านโดเด่นด้วยสีสันของสีเหลืองตัดกับสีเงิน มีระเบียงให้นั่งชิลข้างนอก ส่วนข้างในก็จัดจ้าด้วยฝาผนังสีเหลือง ตัดความแซ่บด้วยฝาผนังเงิน มีที่นั่งอีกทั้งแบบบาร์แล้วก็โซฟาคลาสสิก และก็ยังมีของตกแต่งเชิญชวนให้รู้สึกคิดถึงสมัยเก่าๆของอเมริกาอีกด้วย ส่วนของกินรวมทั้งเครื่องดื่มนั้น ก็จัดเต็มทั้งยังเบอร์เกอร์แล้วก็เครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบมากมายหลากหลายรายการให้เราได้เลือกเลย

4.Fats and Angry

คาเฟ่เล็กๆในเขตบางรัก ที่จะพาย้อนเวลาไปพบกับความสนุกสนานร่าเริงในตอนปี คริสต์ศักราช 1950 แบบอเมริกันสไตล์ หน้าร้านค้าตกแต่งสวยด้วยฝาผนังลายหมากรุก ตัดขอบด้วยสีแดง รวมทั้งเด่นด้วยประตูสีฟ้า ส่วนภายในก็จัดเป็นเก้าอี้เลิศๆพร้อมด้วยนำสีแดง สีเหลือง และก็ลายหมากรุก มาสร้างสีสันให้มีชีวิตชีวา ตามฝาผนังก็มีโปสเตอร์เก่าๆโก้พอได้ ในส่วนของเมนูอาหาร ก็ย้ำไปที่เบอร์เกอร์ รวมทั้งของกินเล่น รวมทั้งรายการอาหารมิลค์เชคสุดคลาสสิก

ชมความงดงามของทุ่งดอกกระเจียวจังหวัดชัยภูมิ

              หากพูดถึงเทศกาลการชมดอกกระเจียวแล้วเราก็นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงทุ่งดอกกระเจียวในจังหวัดชัยภูมิดอกกระเจียวนั้นมีการเกิดขึ้นตามภูเขาสูงมากมายหลายจังหวัดด้วยกันแต่ที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามอย่างมากและนักท่องเที่ยวนั้นนิยมไปเที่ยวกันมากก็จะเป็นที่จังหวัดชัยภูมินั่นเองโดยในช่วงที่ดอกกระเจียวนั้นเบ่งบานมากที่สุดก็จะเป็นช่วงในฤดูฝนช่วงนี้ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมินั้น

ก็มักจะมีการจัดงานประจำปีขึ้นทุกปีเพื่อเป็นเทศกาลให้นักท่องเที่ยวนั้นได้มีโอกาสไปชื่นชมความงามของดอกกระเจียวพร้อมทั้งถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้สวยๆและแน่นอนว่าหากคุณได้มีการขึ้นไปชมความงามของดอกกระเจียวที่เบ่งบานเต็มท้องทุ่งนั้นคุณจะรู้สึกว่าคุณเหมือนกับเจ้าหญิงตัวน้อยที่อยู่ท่ามกลางดอกไม้เลยทีเดียวหลายคนอาจจะเคยศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของดอกกระเจียวกันมาบ้างแล้ว

โดยถ้าเกิดเราเห็นดอกกระเจียวแค่เพียงดอกเดียวนั้นอาจจะไม่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าดอกกระเจียวนั้นมีความงามสักเท่าไหร่แต่ถ้าเกิดคุณเห็นดอกกระเจียวนั้นขึ้นเต็มไปหมดเป็นลานกว้างแล้วก็แน่นอนว่าคุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงความสวยงามของมันเลยทีเดียวและดอกกระเจียวนั้นไม่ได้มีประโยชน์ที่แค่ความสวยงามเท่านั้น

เรายังสามารถนำดอกกระเจียวนั้นมาทำเป็นอาหารรับประทานได้ในว่าจะทำเป็นแกงกะทิดอกกระเจียวหรือแม้แต่ดอกกระเจียวต้มเพื่อจิ้มกับน้ำพริกก็อร่อยอย่าบอกใครเลยทีเดียวซึ่งงานประจำปีที่จังหวัดชัยภูมิมีการจัดขึ้นนั้นนอกจากคุณจะสามารถขึ้นไปถ่ายรูปกับดอกกระเจียวสวยๆคุณยังสามารถซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับดอกกระเจียวกลับมาเป็นของฝากได้อีกด้วยและแน่นอนว่าช่วงการจัดงานชมทุ่งดอกกระเจียวที่จังหวัดชัยภูมิจะเริ่มมีตั้งแต่ประมาณเดือนกรกฎาคมยาวไปจนถึงประมาณเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงที่ดอกกระเจียวกำลังเบ่งบานนั่นเอง

โดยสถานที่จัดงานของทุ่งดอกกระเจียวนั้นจะมีการจัดที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามและจะมีการจัดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติไทรทองซึ่งทั้ง 2 อุทยานแห่งชาตินี้มีพื้นที่อยู่ในเขตจังหวัดชัยภูมิทั้ง 2 ที่และเป็นทั้งสองสถานที่ที่มีทุ่งดอกกระเจียวให้นักท่องเที่ยวนั้นได้เข้าไปถ่ายรูปและชื่นชมความงดงามอย่างไรก็ตามการไปที่อุทยานแห่งชาติงั้นเราสามารถที่จะชมดอกกระเจียวและยังสามารถไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ

ภายในอุทยานแห่งชาติได้ด้วยซึ่งอุทยานแห่งชาติแต่ละที่นั้นก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นน้ำตกหรือแม้แต่การชื่นชมเกี่ยวกับเรื่องของธรรมชาติการไปศึกษาพันธุ์ต้นไม้หรือพันธุ์กล้วยไม้ป่าซึ่งการไปเที่ยวอุทยานแห่งชาตินั้นมักจะได้รับประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องข้อมูลของพืชพรรณทางธรรมชาติได้ดีเลยทีเดียว

ได้รับการสนับสนุนโดย  huaydee