เดือน: พฤษภาคม 2024

พาเที่ยวนอร์เวย์ ประตูสู่ขั้วโลกเหนือ

นอร์เวย์เป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าไปท่องเทียวติดอันดับโลก เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ใครหลาย ๆ คนอยากไปสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็นและได้ตื่นตากับแสงเหนือ ออโรร่า (Aurora) ที่เกิดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติคือการมีแสงบนท้องฟ้ายามค่ำคืน และเป็นแสงที่มีความสวยงามและหาดูได้ยาก ในฤดูร้อนพระอาทิตย์จะไม่ตกเลย Svalbard เป็นอีกหนึ่งเมืองของนอร์เวย์ ชีวิตในโลกเยือกแข็งเขาอยู่กันอย่างไร

วันนี้ที่เราจะนำเสนอยังไม่ถึงขั้วโลกเหนือเสียทีเดียว แต่ว่าเป็นเมืองที่อยู่เหนือที่สุดเท่าที่มีมนุษย์อยู่กัน บนแผ่นบนหมู่เกาะเล็ก ๆ  ที่ชื่อว่า Svalbard (สวาลบาร์ด)

สวาลบาร์ดอยู่ห่างจากขั้วโลกเหนือประมาณหนึ่งพันกว่ากิโลเมตรและเหนือไปกว่านั้นก็ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่อีกแล้ว 

เมื่องที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสวาลบาร์ดชื่อ Longyearbyen (ลองเยียร์เบียน) หรือเมือง ลองเยียร์นั่นเอง ตั่งชื่อตามนักธุรกิจชาวอเมริกัน วึ่งเข้ามาเปิดบริษัทเหมืองถ่านหินเมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว แล้วก็ได้สร้างหมู่บ้านเพื่อรองรับคนงานของตัวเองขึ้นมา ตั้งชื่อว่า จอห์น มันโร ลองเยียร์ 

 

เมื่อประเทศนอร์เวย์ได้เข้ามาเป็นเจ้าของเกาะนี้ ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ลองเยียร์เบียน ประชากรในสวาลบาร์ดส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวนอร์เวย์ แต่ก็มีประชากรชาวรัสเซียอยู่บ้าง นอกจากเมืองนี้และก็เมืองเล็กๆที่อยู่รายรอบออกไปจากนี้ พื้นที่ 98% ของสวาลบาร์ดเป็นความเวิ้งว้างของธรรมชาติทั้งสิ้น

 

การที่บ้านแถวนี้ถูกสร้างในรูปแบบที่ดูกึ่งชั่วคราว เนื่องจากว่าใต้ดินบริเวณแถวขั้วโลกมีสิ่งที่เรียกว่า Permafrost (เพอร์มาฟรอสต์) ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือ ดินและหินซึ่งแข็งเป็นน้ำแข็งตลอดเวลาอยู่ใต้ดินลึกลงไปประมาณ 2 เมตร ในการสร้างบ้านหากมีการเจาะลึกลงไปจนกระทั่ง ไปกระทบกับเพอร์มาฟรอสต์ที่อยู่ใต้ดิน อาจจะส่งผลไห้เพอร์มาฟรอสต์ละลายได้ เปรียบเสมือนหน้าดินวึ่งพังทลายเพราะว่าไม่มีอะไรยึดมันเข้าหากัน

 

เนื่องจากที่เพอร์มาฟรอสต์ได้เป็นดินที่ค่อนข้างแข็งที่อยู่ใต้ดินเนี่ย นอกจากที่มันจะมีผลกับเรื่องของการสร้างบ้านของคนที่อาศัยอยู่ที่นี่แล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีผลกับชีวิตในหลายๆด้าน อย่างเช่นถ้ามองไปรอบๆจะเห็นเป็นสุสาน ทีมีอยู่ไม่กี่หลุมเท่านั้นเอง

 

เพราะว่าคนที่เวลาตายเค้าจะไม่อนุญาตให้ฝังที่นี่ เพราะเวลาที่ฝังปุ๊บ ไอ้เพอร์มาฟรอสต์ที่อยู่ใต้ดิน ที่เป้นการแข็งตัวเนี่ยมันดันศพขึ้นมาบนพื้นดิน เพราะฉะนั้นเวลาตายที่นี่ก็คือจะส่งศพกลับไปฝังที่นอร์เวย์ ที่แผ่นดินใหญ่กัน ซึ่งถ้าไปเที่ยวแล้วเห็นหลุมศพที่อยู่นั่นเขาพวกนั้นจะเป้นคนที่มีความสัมพันธุ์ที่ลึกซึ้งกับสวาลบาร์ดเท่านั้น

 

สนับสนุนโดย    ole777