หมวดหมู่: ท่องเที่ยว

พาเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี

       สำหรับวันหยุดนี้หากยังคิดไม่ออกกันว่าจะไปเที่ยวที่ไหน แนะนำว่าลองมาเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีดูนะคะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายที่ที่สวยงามและควรจะมาดูสักครั้งสำหรับวันนี้จะแนะนำการไปเที่ยวที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นค่ะพื้นที่น้ำตกแห่งนี้มีความงดงามอย่างมากและเป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามอันดับต้นๆของประเทศไทยเลยทีเดียวสำหรับน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นนี้เป็นน้ำตกที่มีพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ค่ะดูน้ำตกแห่งนี้

จะเป็นน้ำตกที่ประกอบด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกันซึ่งแต่ละชั้นนั้นก็จะมีขนาดใดและก็มีความสวยงามของแต่ละชั้นนั้นแตกต่างกันออกไปบริเวณน้ำตกนั้นจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นเต็มไปหมดค่ะและไม่ต้องถามนะคะว่ามีต้นอะไรบ้างเพราะเป็นต้นไม้ที่มากมายหลากหลายพันเลยทีเดียวแน่นอนว่าเมื่อมีน้ำตกมีต้นไม้มีแม่น้ำอากาศย่อมสดชื่น

และร่มรื่นแน่นอนเลยทีเดียวจำนวนน้ำตก 7 ชั้นของที่นี่แต่ละชั้นจะมีลักษณะของชั้นหินที่แตกต่างกันออกไปเวลาที่เรามาเที่ยวที่นี่น้ำตกจะเป็นสีเขียวสวยงามรวมถึงเวลาที่เรามองเห็นฉันนั้นตกจากชั้นล่างมองขึ้นไปที่สูงเราจะเห็นน้ำที่ลดลงมาในแต่ละชั้นเป็นสายลงมาซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมากแต่ละชั้นเองก็จะมีแอ่งต่างๆมากมายหลายแห่ง

ซึ่งเราสามารถที่จะไปเล่นน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆนี้ได้บางชั้นน้ำตกก็จะสูงชันแต่บางชั้นน้ำตกก็จะแค่เป็นระดับชั้นซึ่งหากใครยังไม่เคยเห็นและยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปเที่ยวดีหรือไม่แนะนำว่าลองไปหารูปภาพในอินเตอร์เน็ตดูค่ะแล้วคุณจะรู้เลยว่าที่นี่เนี่ยสวยงามมากจริงๆสมกับที่มีการติดอันดับของประเทศไทยเลยทีเดียว แต่ละชั้นของน้ำตกที่นี่จะมีการตั้งชื่อที่แตกต่างกันออกไปด้วยนะคะโดยจะมีตั้งแต่ชั้นดงว่านชั้นม่านขมิ้น, ชั้นวังหน้าผา, ชั้นฉัตรแก้ว ชั้นไหลจนหลง ,ชั้นดงผีเสื้อ และชั้นร่มเกล้า

หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากมาเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแล้วเราก็สามารถที่จะขับรถเข้ามาได้เลยค่ะเรื่องที่น้ำตกแห่งนี้จะมีระยะทางห่างจากตัวเมืองของจังหวัดกาญจนบุรีอยู่ที่ประมาณ 180 กิโลเมตร

สำหรับที่น้ำตกแห่งนี้นั้นเราสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีนะคะเพราะจะมีน้ำเยอะตลอดทั้งปีเลยทีเดียวยิ่งเฉพาะหน้าฝนน้ำจะเยอะมากเป็นพิเศษแต่ถ้าใครอยากจะจะมาเที่ยวจริงๆแนะนำว่าควรจะมาช่วงประมาณซักเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนเมษายนแทนนะคะเพราะว่าถ้ามาหน้าฝนเลยเนี่ยฝนจะตกชุกชุมแล้วน้ำมันจะเยอะจนเกินไปและที่สำคัญน้ำจะสีไม่ค่อยสวยมากนักเพราะว่าน้องฝนจะชะล้างดินจากด้านบนของภูเขาลงมาด้วยทำให้สีของน้ำตกนั้นออกจะเป็นสีขุ่นๆไม่ค่อยน่าเล่นสักเท่าไหร่ค่ะ

 

สนับสนุนโดย  bk8

เที่ยวฮ่องกงพาไปกราบไหว้ขอพร ไท้ส่วยเอี๊ยะครบทั้ง 60 องค์

       สำหรับใครที่ชอบแนวการท่องเที่ยวต่างประเทศแต่ไม่อยากเดินทางไกลมากนักส่วนใหญ่ก็มักจะไปเที่ยวที่ฮ่องกงกัน เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ปลอดภาษีทำให้ซื้อของได้ในราคาที่ถูกแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงยังเป็นแหล่งคาสิโนที่ผู้คนที่ชื่นชอบการเสี่ยงดวงได้เดินทางมาหาความสำราญ

ดังนั้น ฮ่องกงจึงขึ้นชื่อได้ว่าเป็นประเทศที่น่ามาเที่ยวอีกประเทศหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งที่นี่นอกจากนักท่องเที่ยวจะนิยมมาช้อปปิ้งและเที่ยวและหาอาหารอร่อยทานกันแล้ว ยังนิยมมาขอพรไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามาสถานที่ต่างๆอีกด้วย ซึ่งที่ประเทศฮ่องกง จะมีวัดมากมายหลายที่แต่วันนี้ที่จะพามาแนะนำให้รู้จักกันคือ วัดหยวนหยวน 

สำหรับที่วัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของฮ่องกงที่ผู้คนทั่วโลกต่างพากันมากราบไหว้ขอพร  สำหรับที่วัดหยวนหยวน ถือว่าเป็นแลนด์มาร์กของประเทศฮ่องกงที่ให้กลุ่มคนที่ชอบทำบุญไหว้พระ หรือแม้แต่นักแสวงบุญต่างๆ ต่างก็ต้องกันมาที่แห่งนี้กันอย่างหนาแน่นไม่ขาดสายเลยทีเดียว ซึ่งภายวัดจะมีความร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่

มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม  สำหรับที่นี่ยังเป็นที่นิยมให้ผู้คนเดินทางมาแก้ปีชงกัน หรอหาใครต้องการมาเสริมดวงหรือต่อชะตาก็สามารถเดินทางมาได้ ภายในบริเวณวัดจะมีรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้เคารพกราบไหว้ รวมถึง มีศาลา  อาราม และหอสำหรับสวดมนต์  และจุดที่สวยจนเป็นที่ร่ำลือกันมายาวนานและเป็นจุดที่คนนิยมไปถ่ายรูปมากที่สุดคือ วิหารหอฟ้า ซึ่งทางวัดหยวนหยวน ได้มีการจำลองแบบมาจากวัด Tian tan ของประเทศจีน ที่เขาเล่าลือกันว่าสวยงามอลังการมาก

สำหรับวัดแห่งนี้จะมีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้ผู้คนสนใจมาเที่ยวที่นี่ เช่นวัดแห่งนี้เป็นวัดแห่งเดียวของประเทศฮ่องกงที่สามารถรวมความเชื่อของทั้ง 3 ศาสนาไว้รวมกันได้ โดยมีศาสนา พุทธ   ลัทธิเต๋าและลัทธิขงจื้อ ดังนั้น ผู้คนที่นับถือทั้งสามศาสนานี้ต่างก็พากันมากราบไหว้ และที่สำคัญที่วัด หยวนหยวนแห่งนี้มี องค์เทพเจ้า ไท้ส่วยเอี๊ยะครบทั้ง 60 องค์

พร้อมปีเกิดกำกับ  ซึ่งต่างก็มีความเชื่อกันว่าองค์เทพเจ้าจะมาคอยให้ความคุ้มครองช่วยเหลือมนุษย์  จึงทำให้ในช่วงเดือนมกราคม หรือช่วงที่ตรงกับวันตรุษจีนผู้คนต่างก็จะพากันมาที่วัดแห่งนี้กันอย่างเนืองแน่น เพราะหวังมาขอพรและสะเดาะเคราะห์ร้ายให้ออกไปจากตัว ถือเป็นการมาแก้ปีชง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เว็บพนัน ออนไลน์

ความสวยงามและความน่าอัศจรรย์ใจของแม่น้ำ 5 สี

           หากใครที่เคยไปประเทศโคลัมเบียคงจะได้มีโอกาสแวะไปเยี่ยมชมความงดงามทางธรรมชาติของแม่น้ำ 5 สีซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมากของประเทศโคลัมเบียมาที่นี่เป็นสถานที่ที่คนต่างก็พูดกันว่าเป็นแม่น้ำที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับแม่น้ำ 5 สีนั้นเป็นแม่น้ำที่มีสีสันสวยงามโดยว่ากันว่าที่แม่น้ำแห่งนี้จะเป็นน้ำที่ใสมากๆจนเราสามารถมองเห็นด้านล่างได้เลยซึ่งที่มาของคำว่าแม่น้ำ 5 สีนั่นก็เพราะว่าเราสามารถมองเห็นต้นหญ้า  เข่น Mossed หรือ algae

ซึ่งต้นไม้ทั้งสองชนิดนี้จะมีสีสันสวยงามแปลกตาโดยจะมีทั้งสีน้ำตาลและมีสีเขียวและต้นไม้ชนิดนี้ก็เป็นต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ใต้น้ำตลอดทั้งปีสำหรับแม่น้ำที่นี่นั้นจะไม่มีดินโคลนจะมีแค่ตัวหินดังนั้นเมื่อเรามองลงไปจากน้ำที่ใสๆเมื่อเราไปเห็นความงดงามของสีเขียวสีน้ำตาลเราก็จะทำให้เห็นว่าแม่น้ำแห่งนี้นั้นมีสีสันสวยงามเลยทีเดียว

  นอกจากสีที่เห็นมีสีน้ำตาลและสีเขียวแล้ว ยังมีสีม่วง และสีแดงอมม่วงผสมเข้ากับสีเขียว กลายเป็นสีฟ้าเข้ม  ทำให้เวลาที่เรามองจะเห็นแม่น้ำกลายเป็นสีสันมากมาย สวยแปลกตามากทีเดียว หากใครที่อยากจะเดินทางไปชมความงดงามของแม่น้ำห้าสี นี้แนะนำเลยว่าควรไปช่วงระหว่างปลายร้อนต้นฝน เพราะถ้ามาช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่น้ำกำลังพอเหมาะที่พืชใต้น้ำจะเจริญงอกงามชูช่อสวยงามอยู่ใต้น้ำทำให้เราสามารถมองเห็นความสวยงามหลากสีสัน

เราจะเห็นดอกไม้เต็มโขดหินสองข้างทางและยังบริเวณใต้น้ำอีกด้วย  หากเป็นข่วงเวลาอื่นแม่น้ำที่นี่จะเป็นสีเขียวจะมีเฉพาะแค่ช่วงเวลาสั้นสั้นที่นั้นที่แม่น้ำเส้นนี้จะมีสีสันสวยงาม แปลกตาและเรายังจะเห็นสีของต้นไม้สลับกับสีของทรายซึ่งเป็นพื้นทรายสีเหลือง แม่น้ำที่นี่เป็นแม่น้ำตื้นตื้นแต่น้ำที่นี่จะมีการไหลแรงและเร็ว และที่แม่น้ำแห่งนี้

จะไม่สัตว์น้ำและปลาอาศัยอยู่เลย จึงเป็นผลให้ที่นี่มีแม่น้ำที่ใสแจ๋ว สำหรับใครที่อยากไปเห็นแม่น้ำห้าสีสักครั้งต้องบอกก่อนว่าการเดินทางไปเที่ยวที่นี่ค่อนข้างลำบากสักนิดนะคะเพราอยู่ในเมืองที่ยังห่างไกลจากตัวเมืองสักหน่อยการเดินทางไม่มีรถค่ะ จะต้องขี่ม้าหรืออาจจะเดินเท้าเข้าไปก็ได้แต่อาจจะเหนื่อยสักหน่อยแต่ถ้าเหนื่อยแล้วไปเห็นความสวยงามแบบนี้ก็คุ้มนะคะ มาที่นี่เราจะได้ถ่ายรูปสวยสวยมากมาย

          

สนับสนุนเรื่องราวมาจาก  sagame เครดิตฟรี

อยากไปเที่ยวสิงคโปร์ควรรู้เรื่องเหล่านี้ 

    เป็นธรรมดาที่เวลาที่เราจะไปเที่ยวที่ไหนหรือไปประเทศอะไรเราก็ควรจะต้องศึกษาข้อมูลของประเทศนั้นๆไว้เบื้องต้นเอาไว้ก่อนเพื่อที่เวลาที่เราไปเที่ยวที่ประเทศต่างๆเหล่านั้นแล้ว

เราจะได้ไม่ทำผิดพลาดหรือผิดประเพณีของประเทศนั้นๆสำหรับใครก็ตามที่เป็นมือใหม่หัดเที่ยวต่างประเทศไปเที่ยวประเทศเล็กๆนั้นเป็นสิ่งที่สมควรเริ่มแรกเป็นอย่างยิ่งและการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกนั้นไม่ควรเดินทางไปประเทศที่ไกลจากประเทศไทยมากนักดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำการท่องเที่ยวประเทศสิงคโปร์

ซึ่งเป็นประเทศในแถบเอเชียที่ถึงแม้ว่าจะมีขนาดของประเทศนั้นไม่ได้ใหญ่โตมากนักแต่ประเทศสิงคโปร์นั้นก็มีดีมากมายพอที่จะให้เราเดินทางไปเที่ยวได้และที่สำคัญการไปเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์นี้เราไม่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางนานมากนักเราสามารถที่จะเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์แค่เพียง 2-3 วันก็บินกลับเมืองไทยได้แล้วสำหรับการไปเที่ยวต่างประเทศนั้นเราจำเป็นต้องทำความรู้จักกับประเทศสิงคโปร์ก่อนเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าอัตราค่าเงินของเขาเป็นแบบไหน

เขามีที่เที่ยวแบบไหนบ้างและมีสถานที่ขึ้นชื่อเป็นอะไรรวมถึงเมืองไหนที่น่าเที่ยวที่สุดมีวัฒนธรรมเป็นแบบไหนคนสิงคโปร์นั้นนิยมพูดภาษาอะไรสิ่งต่างๆเหล่านี้เราควรจะต้องมีการศึกษาก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวสิงคโปร์เพราะฉะนั้นแล้วหากเราไปโดยที่เราไม่รู้เรื่องอะไรเลยการเที่ยวของเราก็จะไม่สนุกคุณจะรู้ไหมว่าที่สิงคโปร์นั้น

มีประชากรอยู่ที่ประมาณเกือบ 6 ล้านคนและมากกว่า 2 ล้านคนนั้นเป็นชาวต่างชาติจริงๆแล้วประเทศสิงคโปร์นั้นจะมีคนจีนอาศัยอยู่แค่เพียงประมาณ 75% เท่านั้นนอกจากนั้นก็จะเป็นชาวเมืองอื่นๆส่วนการพูดคุยกันของคนสิงคโปร์นั้นนิยมพูดเป็นภาษาอังกฤษซึ่งถ้าหากเราไม่เคยมีการศึกษาข้อมูลเราก็อาจจะเชื่อว่าสิงคโปร์ในพูดภาษาจีนซึ่งจริงๆแล้วภาษาหลักของสิงคโปร์คืออังกฤษและรองลงมานั่นคือภาษาจีนนั่นเองประเทศสิงคโปร์นั้นมีวินัยและมีความตรงต่อเวลาและมีความสุภาพค่อนข้างมาก

ดังนั้นหากใครทำผิดประเทศสิงคโปร์จะมีการลงโทษและมีการปรับเปลี่ยนข้างหนักอย่างมากหากเราเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์แล้วไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายของสิงคโปร์เอาไว้บ้างเมื่อเรามีการทำความผิดอาจจะทำให้เราถูกลงโทษหรือถูกจำคุกอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์โดยไม่ได้กลับมาประเทศไทยเลยก็ได้

เพราะสิงคโปร์แม้แต่การทิ้งขยะไม่เป็นที่ก็ทำให้คนถูกลงโทษเพราะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายดังนั้นคุณควรศึกษาข้อมูลว่าการจราจรของสิงคโปร์นั้นเป็นแบบไหนหรือสิ่งของอะไรบ้างที่เป็นสิ่งของต้องห้ามที่ไม่สามารถนำเข้าไปในประเทศสิงคโปร์ได้ส่วนสกุลตาการใช้เงินของสิงคโปร์นั้นจะใช้เป็นดอลลาร์สิงคโปร์ซึ่งก่อนเดินทางเราสามารถนำเงินไปของเราไปแลกเป็นเงินดอลลาร์สิงคโปร์

ได้ตรงจุดที่มีการให้แลกเงินตราต่างประเทศหลายๆอย่างที่เราจะเดินทางไปต่างประเทศไม่ใช่ว่าจะพบประเทศสิงคโปร์เท่านั้นแต่ทุกประเทศที่เราจะไปเที่ยวเราควรมีการศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้เสียก่อนเพื่อที่เราจะได้เที่ยวได้อย่างสบายใจและมีความสุข

 

ได้รับสนับสนุนโดย  bk8 live tv

สถานที่น่าไปช่วงฤดูหนาว 

ในช่วงฤดูหนาวนั้นทุกคนต่างอยากรู้ว่าจะมีที่ไหนบ้างนะที่เหมาะกับการเที่ยวในช่วงนี้ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไปนั่นก็คือเพลาเพลิน ดอกไม้ที่นี่นั้นจะบานสวยมากในช่วงฤดูหนาวดังนั้นที่นี่จะทำการเปิดให้เข้าชมได้เพียงแค่ช่วงฤดูหนาวเท่านั้นซึ่งต้องขอบอกว่าคนจำเป็นที่จะต้องรอมาที่นี่กันสักครั้งจริงๆ

ซึ่งที่นี่นั้นมีสถานที่นอกจากถ่ายรูปและยังมีของจำลองอีกหลายๆอย่างจากนั้นยังมีโซนของเล่นเด็กซึ่งจะให้เด็กๆต่อเลโก้เล่นชิงช้าหรือเล่นสไลเดอร์กันค่ะทุกๆจุดนั้นจะสวยมากๆและนอกจากนั้นที่นี่ยังมีของจำลองสถานที่เที่ยวต่างประเทศมากมายไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองจีนหอไอเฟลหรือไม่ก็ยังถูกสร้างขึ้นมา

เพื่อจำลองให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ได้ลองถ่ายรูปกันมีความรู้สึกและฟิลลิ่งเหมือนกับว่าเรากำลังอยู่ที่ต่างประเทศจริงๆค่ะต่อมาเราจะมาพูดถึงส่วนหนึ่งนั่นก็คือโซนดอกไม้ค่ะซึ่งที่นี่นั้นจะมีดอกไม้เยอะมากหลายๆนานาชนิดและละลายนานาสายพันธุ์ซึ่งมีดอกไม้อยู่มากมายเป็นที่ต้องตาต้องใจและสวยงามถูกใจนักท่องเที่ยวทุกคน

ที่มาที่นี่กันเลยค่ะโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศหนาวมากๆนั้นจะมีดอกทิวลิปหลายๆดอกบานสะพรั่งออกดอกสวยงามถูกใจนักท่องเที่ยวหลายคนกันอย่างมากเลยค่ะซึ่งนักท่องเที่ยวหลายๆคนก็สามารถถ่ายรูปที่นี่ได้อย่างสบายใจสามารถดมกลิ่นของดอกทิวลิปได้อย่างใกล้ชิดโดยที่เจ้าของสวนไม่ว่าอะไร

เพียงแค่อยากกลับบ้านเท่านั้นค่ะเรียกว่าดีมากๆเลยค่ะบอกการท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวมากๆถ้างั้นเรามาต่อกันอีกที่นึงเลยค่ะซึ่งก็เป็นโซนในที่นี่เหมือนกันนั่นก็คือโซนไดโนเสาร์ค่ะซึ่งที่นี่จะถูกสร้างให้เหมือนกับว่าเป็นป่าที่สวยงามแต่ก็ดูมีความมืดนิดหน่อยซึ่งจะเป็นอุโมงค์สร้างขึ้นมาแล้วจะมีหุ่นยนต์ ไดโนเสาร์จำลองให้เด็กๆได้ถ่ายรูปคู่สิ้นไม่อันตรายต่อเด็กๆค่ะเพียงแค่ร้องคำรามน่ารักๆๆรับรองว่าไม่โดนหัวใครแน่นอนค่ะเด็กๆเด็กๆพี่ชอบไดโนเสาร์นั้น

จะต้องถูกใจที่นี่กันอย่างมากเลยค่ะต่อมาอีกซอยนึงที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมากเลยนั่นก็คือโซนที่จะมีดอกกล้วยไม้นานาชนิดอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะซึ่งจะมีกล้วยไม้หลากหลายสีสันงดงามมากมายทุกคนได้ชมกันอย่างใกล้ชิดค่ะเรียกได้ว่าเป็นภาพที่สวยงามมากและมีส่วนของต้นกระบองเพชรด้วยค่ะโดยจะสร้างต้นกระบองเพชรขึ้นมาสร้างไว้

เป็นทางและจำลองพีระมิดขึ้นมาจากก้อนอิฐค่ะซึ่งทุกคนนั้นก็สามารถที่จะดูต้นกระบองเพชรได้อย่างใกล้ชิดลองเดินเที่ยวชมในพีระมิดจำลองที่สวยงามและดูหรูหราคนก็สามารถที่จะลองไปเที่ยวชมกันได้นะคะที่กล่าวมานี้ก็ยังไม่หมดเลยเนื่องจากที่นั่นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเอาเป็นว่าถ้าทุกคนลงไปเที่ยวกันเองจะต้องรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากกว่าที่ได้กล่าวไปอีกค่ะ

 

สนับสนุนเรื่องราวมาจาก  rb888

เที่ยวหาดชมตะวันกางเต้นท์นอนชมธรรมชาติที่งดงาม

           หากใครที่ไม่เคยมาเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์อยากจะแนะนำให้ลองมาเที่ยวดูสักครั้งโดยอยากจะให้ลองมาเที่ยวที่หาดชมตะวันซึ่งที่นี่มีกิจกรรมหลายกิจกรรมที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานได้มีการเตรียมไว้เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะหากใครที่มีเวลาว่างหลายๆวันสามารถพาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่ได้เลยนะคะเพราะนอกจากเราจะได้ชมความงามของแม่น้ำ

เรายังสามารถเดินป่าไปชมความงดงามของเสื้อรวมถึงไปดูประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งเคยมีกลุ่มคอมมิวนิสต์เข้าไปหรอกอาศัยอยู่ภายในถ้ำที่สำคัญยังมีต้นตะเคียนยักษ์ที่มีขนาดใหญ่มากโดยมีคนทดลองใช้มืออบแล้วต้องใช้ถึง 14 คนด้วยกันถึงจะสามารถออกได้เรียกได้ว่ามาที่หาดชมตะวันที่เดียวสามารถเที่ยวได้หลายแบบเลยล่ะค่ะ

เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาผ่าคุณไปเที่ยวที่หาดชมตะวันกันนะคะซึ่งที่นี่จะอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรีในเขตอำเภอเสิงสางโดยที่อุทยานแห่งชาติทับลานนี้จะมีการจัดโซนให้นักท่องเที่ยวได้สามารถไปท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติได้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถไปพักผ่อนหย่อนใจคลายเครียดได้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อันดับแรกเมื่อเรามาถึงที่หาดชมตะวันเราควรจะต้องเลือกจุดกางเต็นท์ของเราก่อนค่ะเอาที่บิลที่ดีที่สุดที่เราชอบเลยทีเดียวโดยเราสามารถกางเต็นท์ใกล้กับลิงอ่างเก็บน้ำได้เลยนะคะ

เพราะฉะนั้นเมื่อกางเต็นท์เสร็จเรียบร้อยแล้วเราสามารถเดินชมธรรมชาติป่าเขาใกล้ๆกับจุดกางเต็นท์ของเราได้เลยมาที่สำคัญตรงบริเวณที่เรากางเต็นท์นี้ทางเจ้าหน้าที่จะมีการเตรียมเรือหางยาวไว้ให้นักท่องเที่ยวไว้เช่าเพื่อไปล่องแม่น้ำดูความงดงามของลำน้ำเมื่อดูความงามของแม่น้ำธรรมชาติริมน้ำกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หากใครอยากที่จะไปเดินป่าเพื่อไปชมต้นไม้ที่หาชมได้ยากจากที่ไหนก็สามารถที่จะให้เจ้าหน้าที่อุทยานพาไปเที่ยวได้ซึ่งภายในป่านี้เราจะเข้าไปดูถ้ำโดยมีถ้ำพระพุทธรูปซึ่งเราสามารถเข้าไปกราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลได้รวมถึงมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นถ้ำคอมมิวนิสต์โดยเมื่อเราเข้าไปข้างในถ้ำเราจะเห็นข้อความที่เขียนระบุเอาไว้แถวบริเวณผนังถ้ำเกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้และก่อนที่จะออกจากป่าเรายังสามารถไปถ่ายรูปกับต้นตะเคียนทองยักษ์

ซึ่งมีขนาดใหญ่มากโดยเชื่อว่าต้นตะเคียนทองนี้มีอายุมาหลายพันปีแล้วโดยเจ้าหน้าที่อุทยานเคยได้มีการทดลองใช้คนจำนวนมากในการจับมือล้อมเพื่ออบลำต้นว่ามีขนาดใหญ่แค่ไหนซึ่งต้องใช้คนมากถึง 14 คนด้วยกันซึ่งหาชมได้ยากมากสำหรับต้นตะเคียนทองยากขนาดนี้และถ้าหากใครมาเที่ยวที่หาดชมตะวันแห่งนี้ในช่วงฤดูหนาวแล้ว

เราก็จะมีอีกหนึ่งสถานที่ที่เจ้าหน้าที่อุทยานแนะนำนั่นก็คือวางผีเสื้อซึ่งจะมีผีเสื้อเต็มไปหมดให้เราได้ถ่ายรูปคู่กับผีเสื้อเพื่อเอามาลง Facebook หรือ Instagram ส่วนตัวของเราเพื่อโชว์เพื่อนๆและที่สำคัญหากไม่ได้เลยที่นักท่องเที่ยวที่มาหาตะวันจะต้องไม่พลาดแน่ๆก็คือการชมความงดงามยามพระอาทิตย์ตกดินและพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดชมตะวันนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  bk8 คาสิโน

อยากพบกับความรักดีๆไปขอพรกับพระแม่ลักษมีที่เกษรพลาซ่ากันเถอะ

           สำหรับหนุ่มสาวที่ต้องการขอพรเกี่ยวกับเรื่องของความรักแน่นอนว่าในกรุงเทพฯนั้นมีสถานที่ขอพรเกี่ยวกับความรักอยู่หลายสถานที่ด้วยกันซึ่งแต่ละสถานที่ก็มีชื่อเสียงและเมื่อมีใครไปขอพรเกี่ยวกับเรื่องของความรักก็มักจะสมหวังได้กันทุกรายไป 1 ในสถานที่ขอพรเกี่ยวกับเรื่องของความรักที่จะแนะนำอีกสถานที่หนึ่งนั่นก็คือพระแม่รัศมี

ซึ่งท่านเป็นเทพีแห่งความรักที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ซึ่งพระแม่ลักษมีนั้นพระองค์เป็นพระชายาซึ่งมีความซื่อสัตย์ต่อความรักของพระนารายณ์เป็นอย่างมากและที่สำคัญพระแม่ลักษมีเทวียังทรงเป็นที่รักของพระสวามีนั่นก็คือพระนารายณ์มากนั่นเองทำให้หลายคนที่ได้เห็นความรักของทั้งสองพระองค์ต่างก็รู้สึกศรัทธาและพากันเลื่อมใสจึงเดินทางมาขอพรเกี่ยวกับเรื่องของความรักกับพระแม่ลักษมีเทวีกันเป็นจำนวนมาก

โดยมีการเชื่อกันว่าหากได้มาขอพรกับพระแม่ลักษมีเทวีแล้วความรักของหนุ่มสาวที่มาขอพรนั้นจะสุขสมหวังและจะสามารถครองคู่กันจนแก่เฒ่าและที่สำคัญคู่ของเขาหรือเธอจะซื่อสัตย์ออกครอบครัวเหมือนอย่างที่พระแม่ลักษมีเทวีและพระนารายณ์มีความซื่อสัตย์ต่อกัน

          สำหรับสถานที่ที่เราสามารถไปกราบไหว้ขอพรพระแม่ลักษมีเทวีได้นั้นจะอยู่บริเวณหน้าห้างเกษรพลาซ่าซึ่งอยู่ในเขตกรุงเทพฯนี่เองซึ่งห้างเกษรพลาซ่าร้านนั้นจะอยู่ตรงบริเวณแยกราชประสงค์ซึ่งสถานที่แห่งนี้มักจะมีผู้คนนำพวงมาลัยมากราบไหว้พระแม่ลักษมีกันเป็นจำนวนมาก พระแม่รัศมีเทวีนั้นไม่เพียงแต่ให้โชคลาภเรื่องของเรื่องความรักเท่านั้นแต่พระองค์ยังเป็นเทพนารีแห่งความมั่นคงร่ำรวยอีกด้วยซึ่งตามประวัติว่ากันว่าพระองค์ถือกำเนิดมาจากฟองน้ำ

ซึ่งตอนที่พระแม่ลักษมีได้ถือกำเนิดขึ้นมานั้นพระองค์ขึ้นมาด้วยท่านั่งในดอกบัวด้วยมือของพระองค์ก็ยังมีการถือดอกบัวอีกด้วยทำให้พระองค์มีอีกนามหนึ่งว่าปัทมาซึ่งทำงานลักษมีนั้นเป็นเทพที่มีความงดงามทั้งรูปร่างหน้าตาและกิริยาท่าทางรวมถึงมีวาจาที่ไพเราะเพราะพริ้งโดยมือทั้งสองข้างของพระแม่ลักษมีจะถือดอกบัวทั้งสองข้าง

สำหรับใครก็ตามที่ต้องการไปขอพรกับพระแม่ลักษมีจะต้องขึ้นไปที่ชั้น 4 ของห้างเกษรพลาซ่าประชาชนสามารถที่จะขึ้นไปทำความเคารพสักการะพระแม่ลักษมีได้ตั้งแต่ช่วง 10:00 น.จนถึง 18:00 น.ซึ่งสิ่งที่นำไปกลับบ้านนั้นจะมีเป็นธูป 9 ดอกและดอกบัวซึ่งดอกบัวนั้นจะต้องเป็นสีชมพูเท่านั้นส่วนหากใครที่มาบนบานศาลกล่าวและสุขสมหวังดังที่ขอไปจะมาแก้บนนั้นสามารถที่จะนำน้ำอ้อยหรือมะพร้าวมาทำการแก้บนก็ได้

 

สนับสนุนโดย  bk8 info

พาเที่ยวชมความงามของมาชูปิกชู

พาเที่ยวชมความงามของมาชูปิกชู เมืองของชนเผ่าอินคาที่หายสาบสูญ

            ที่ประเทศเปรูเราจะพบซากอารยธรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณอาการมีความสวยงามโดดเด่นซึ่งสถานที่แห่งนี้เรียกว่ามาชูปิกชูโดยที่นี่จะมีการก่อสร้างไว้บนเทือกเขาสูงซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นอารยธรรมที่มีมานานหลายพันปีแล้วโดยมีการคาดการณ์ว่าน่าจะถูกก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยคริสตศักราช 1450 และสูญหายไปตามกาลเวลาจนถูกขนานนามว่าเมืองสาบสูญแห่งอินคาซึ่งต่อมานักโบราณคดีที่ชื่อว่าไฮแรม  บิงแฮม ได้มีการค้นพบมาชูปิกชูในปีพศ 2454 โดยนักโบราณคดีคนนี้นอกจากจะค้นพบมาชูปิกชูแล้วเขายังค้นพบเอกสารทางประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่ามาชูปิกชูนี้

เกิดขึ้นในจักรวรรดิอินคาที่นี่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมากโดยมีความสูงถึง 2350 เมตรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานที่หากใครต้องเดินทางมาที่ประเทศเปรูแล้วพลาดไม่ได้เลยที่จะต้องมาเยี่ยมชมความงดงามของสถานที่แห่งนี้เนื่องจากที่นี่เป็นลักษณะของ ปราสาทที่อยู่บนยอดเขาเวลาที่ขึ้นไปด้านบนของประสาทแล้วมองลงมาจะมองเห็นความสวยงามของวิวทิวทัศน์ที่อยู่ด้านล่างรวมถึงหากมองด้านบนแล้วมองออกไปข้างนอกจะเหมือนกับเราอยู่บนสรวงสวรรค์ก็ไม่ปานเนื่องจากว่าจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของหุบเขารวมถึงท้องฟ้า

ที่มีก้อนเมฆสีขาวตลับเขียวเต็มไปหมดที่นี่เป็นสิ่งก่อสร้างที่ถูกสร้างด้วยการ นำหินก้อนเล็กๆมาเรียงรายต่อกันจนเกิดเป็นประสาทขึ้นมาและการเดินทางมาที่เมืองมาชูปิกชูนี้สามารถที่จะนั่งเป็นรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารประจำทางมาก็ได้ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็จะมาถึงโดยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ซึ่งมีการประกาศเอาไว้เมื่อปีพศ 2550 นักท่องเที่ยวหลายคนที่เดินทางมาเที่ยวที่นี่ต่างก็ยกย่องว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใครคุณสามารถที่จะนั่งชมความงดงามของธรรมชาติได้เป็นวันๆโดยไม่มีเบื่อและที่นี่หากคุณมองลงไปด้านล่างคุณจะพบกับจุดชมวิวซึ่งจะมองเห็นแม่น้ำไหลผ่านกับหุบเขาโดยเชื่อกันว่าแม่น้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งของชนเผ่าต่างๆรวมถึงชนเผ่าอินคาด้วยซึ่งแม่น้ำแห่งนี้เราเรียกกันว่าแม่น้ำอูรูบัมบาสิ่งที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับคนที่พบเห็นและกลายมาเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกได้นั้นเนื่องจากว่าสิ่งก่อสร้างทั้งหมดของที่นี่เกิดจากการกระทำของฝีมือมนุษย์

ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นได้มีการขนย้ายอิฐขึ้นมาบนภูเขาสูงและนำมาต่อเรียงรายกันเกิดเป็นกำแพงเกิดเป็นอาคารบ้านเรือนซึ่งในสมัยโบราณนั้นไม่มีอะไรที่จะสามารถนำมาเป็นเครื่องมือในการขนย้ายพวกหินเหล่านี้ได้เลยดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างมากที่ชาวเผ่าอินคาได้มีการขนหินก้อนเล็กๆทีละก้อนขึ้นมาบนยอดเขาที่สูงมากขนาดนี้แล้วมาสร้างเป็นสถานที่ที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวรุ่นหลังได้มาเยี่ยมชม

นั่งรถไฟ JR ของญี่ปุ่นไปไหนได้บ้าง

รถไฟสายสีเขียว JR ของญี่ปุ่น เป็นรถไฟสายสำคัญที่เดินทางผ่านหลายๆเมืองที่สำคัญ หากท่านไม่ชำนาญในการเดินทางในญี่ปุ่น เราจะแนะนำสถานที่สำคัญๆในแต่ละสถานีที่รถไฟ JR ผ่านให้ได้ทราบ เพื่อเป็นแนวทางในการเดินทางในญี่ปุ่น

สถานี Yurakucho ชื่อนี้คงดูไม่คุ้นหูเท่าใดนัก แต่หากพูดว่าที่นี่คือสถานี “ย่านกินซ่า” หลายๆคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี ย่านกินซ่านี้คือย่านหรูหราฟุ้งเฟ้อฟู่ฟ่าของโตเกียว ประมาณย่านกังนัมของเกาหลีใต้ ที่เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำหลากหลายชนิดเรียงรายให้เลือกซื้อช้อปปิ้ง หากท่านเตรียมใจเตรียมเงินแล้วก็ไม่ลำบากอะไรในการเดินเล่นในย่านนี้ แต่หากเป็นการมาเที่ยวในงบจำกัดแล้วล่ะก็ คงจะลำบากใจซักหน่อย เพราะมีแต่ของแพงไฮโซเต็มไปหมด

สถานี Shinjuku ชินจูกุ เป็นสถานีแห่งความวุ่นวายชวนหลงได้เป็นอย่างดี เพราะภายในสถานีนี้ค่อนข้างซับซ้อนมาก มีทางออกมากมายหลายทาง ถ้ามือใหม่มาที่นี่มีโอกาสหลงสูงมาก ย่านชินจูกุ เป็นย่านแห่งความบันเทิงครบวงจร เป็นศูนย์รวมทุกอย่าง สินค้าช้อปปิ้ง ความบันเทิง แฟชั่น เสื้อผ้า  หรือสถานบันเทิงยามค่ำคืน ก็ต้องมาที่แห่งนี้ เรียกได้ว่าคนพลุกพล่านตลอดทั้งวันทั้งคืน

สถานี Ikebukuro อิเคะบุคุโระ เป็นสถานีที่ ครบจบในที่เดียวอีกแห่งหนึ่ง มีแหล่งช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินนค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงที่เที่ยวอย่างพวกพิพิธภัณฑ์ อะควาเรียม จุดชมวิว และย่านสถานบันเทิงอีกด้วย

สถานี Nippori นิปโปริ คำจำกัดความง่ายๆของสถานีนี้คือ พาหุรัดเมืองไทย ที่มีผ้าชนิดต่าง เสื้อผ้าต่างๆมากมาย มีอุปกรณ์งานฝีมือเย็บปักทักร้อย คือเรียกว่าถ้าจะทำงานเกี่ยวกับเสื้อผ้า เย็บผ้า หาอุปกรณ์ หรือซื้อเสื้อผ้าแบบงานเย็บสำเร็จเหมือนพาหุรัดบ้านเราแล้วล่ะก็ต้องมาที่นี่นั่นเอง

สถานี Ueno อุเอะโนะ เป็นสถานี ที่เหมาะกับคนรักสงบ หลีกหนีความวุ่นวายอย่างกินซ่า ชิบุย่า หรือ ฮาราจูกุ ได้เป็นอย่างดี เป็นที่พักยอดฮิตของคนไทย เพราะค่อนข้างสงบ ห่างไกลตัวเมือง มีสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ ไปเที่ยวได้ และมีแหล่งช้อปปิ้งของถูก รวมถึงร้านอาหารเด็ดอย่างซูชิด้ง ด้วย

เที่ยวถ้ำเขาบินที่จังหวัดราชบุรี

              นักท่องเที่ยวหลายคนที่ชอบท่องเที่ยวแบบผจญภัยไม่ควรพลาดที่จะไปท่องเที่ยวในถ้ำที่มีความงดงามแปลกตา

ซึ่งที่จังหวัดราชบุรีนี้ก็มีทำให้นักท่องเที่ยวได้มาลองศึกษาค้นหาข้อมูลประวัติความเป็นมาซึ่งน่าจะยาวนานโดยในถ้ำที่จะแนะนำวันนี้คือถ้ำเขาบินซึ่งที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ห่างจากตัวจังหวัดราชบุรีอยู่ประมาณ 20 กิโลเมตร

แต่การเดินทางมาที่ถ้ำแห่งนี้มาง่ายมากเนื่องจากว่าจะมีป้ายบอกทางให้นักท่องเที่ยวเห็นอย่างชัดเจนขับรถแล้วมองป้ายมาก็จะสามารถเดินทางมาถึงที่ถ้ำแห่งนี้ได้เลยสำหรับถ้ำเขาบินนี้จะอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งภายในถ้ำเราจะมองเห็นหินงอกหินย้อยเต็มไปหมดและภายในถ้ำจะมีการติดไฟเป็นสีสันสวยงามสองแถวผนังถ้ำทำให้เราไม่ได้รู้สึกวังเวงหรือน่ากลัวแต่อย่างใดๆ

ภายในถ้ำเป็นอุโมงค์ทรงสูงทำให้เราไม่อึดอัดเวลาเข้าไปชมความงามภายในถ้ำได้มาเที่ยวที่ถ้ำเขาบินนี้ถือว่าเป็นถ้ำที่สะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวมากเนื่องจากว่าทางเจ้าหน้าที่มีการอำนวยความสะดวกไว้มากมายหลายอย่างเมื่อเข้ามาภายในถ้ำจะเห็นตามผนังถ้ำมีทั้งแสงสีฟ้าสีเขียวสีน้ำเงินแตกต่างกันไปมากมา

ตามแต่ละจุดที่เราเดินผ่านซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ท่องเที่ยวภายในถ้ำแห่งนี้ก็จะมาชมความงดงามของหินงอกหินย้อยและลักษณะการโค้งภายในถ้ำ 

สำหรับที่นี่เมื่อเราเข้าไปด้านในแล้วจะพบว่ามีช่องรายช่องให้เราเลือกเดินเข้าไปซึ่งทั้งหมดแล้วนับได้อยู่ที่ประมาณ 8 ช่องใหญ่ๆด้วยกันซึ่งแต่ละช่องก็จะเกิดหินงอกหินย้อยที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันออกไปและก็มีการตั้งชื่อช่องแต่ละช่องเอาไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีการจดจำและเมื่อเดินทางไปถึงตรงจุดกึ่งกลางของถ้ำ

ก็จะมีห้องโถงเป็นห้องโถงใหญ่ซึ่งที่นี่มีการเรียกชื่อกันว่าโถงอาคันตุกะโดยมองกันว่าห้องโถงแห่งนี้ก็เปรียบเสมือนกับห้องรับแขกภายในบ้านหลายคนมีความเชื่อกันว่าที่ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่จะเปิดให้กับคนที่มีบุญญาธิการเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามาเที่ยวได้โดยถ้าหากใครสามารถเดินทางไปจนถึงห้องโถงกลางค่ำได้นั่นหมายถึงว่าเป็นผู้ที่มีบุญบารมีสูง

และถ้าหากเดินผ่านพ้นห้องโถงกลางค่ำนี้ออกไปอีกก็จะทำให้ใครที่มีเรื่องเศร้าโศกเสียใจหรือมีเรื่องทุกข์ใจก็จะคลายความทุกข์เหล่านั้นลงไปได้และหากใครก็ตามที่ต้องการมาเที่ยวที่ถ้ำแห่งนี้ควรจะเดินตามเส้นทางที่ทางเจ้าหน้าที่เขามีการทำเครื่องหมายและมีการส่องไฟเอาไว้ให้เพื่อที่จะได้เดินได้สะดวกไม่หลงทางไปไหน

เพราะหากเราไม่เดินตามเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ทำไว้ให้เมื่อหลงแล้วอาจจะตามหาตัวได้ยากและอาจจะทำให้ไปเจอในบริเวณที่เป็นจุดอ่อนของอากาศเกิดอันตรายขึ้นได้ดังนั้นการท่องเที่ยวภายในถ้ำจึงควรทำตามกฎที่ทางเจ้าหน้าที่ดูแลท่านมีการตั้งเอาไว้